นักท่องเที่ยวจากเที่ยวบินที่มาจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีน เปิบพิสดารซุกค้างคาวรมควัน รวมทั้งเนื้อหมูแปรรูปเข้าไทย แต่ถูก ‘สารวัตรบีเกิ้ล’ ประจำด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจพบก่อน
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ชุดปฏิบัติการทีมสุนัขดมกลิ่น ด่านกักกันสัตว์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมินำ ‘สารวัตรบีเกิ้ล’ ออกปฏิบัติงานตรวจสอบการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์-ซากสัตว์ ทั้งขาเข้าและขาออกบริเวณอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะเที่ยวบินที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ประเทศกัมพูชา มาเลเซีย ไต้หวัน ลาว เวียดนาม และจีน
ล่าสุด ‘สารวัตรบีเกิ้ล’ ตรวจพบสัมภาระต้องสงสัยจากเที่ยวบินที่มาจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีน เจ้าหน้าที่จึงเปิดออกตรวจโดยละเอียดพบว่าได้ซุกซ่อนซากสัตว์เข้ามาดังนี้
– ค้างคาวรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม
– ขาหมูรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 2.5 กิโลกรัม
– หมูสามชั้นรมควัน 1 ถุง น้ำหนัก 4.5 กิโลกรัม
สำหรับการลักลอบนำซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรไทยเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เจ้าหน้าที่จึงอายัดและเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุมัติทำลายตามระเบียบกรมปศุสัตว์ เพื่อเฝ้าระวังโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) จากซากสุกร ซึ่งโรค ASF เป็นโรคติดเชื้อในสุกร และโรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ที่มีค้างคาวเป็นแหล่งรังโรค โดยเชื้อไวรัสนิปาห์จะก่อให้เกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงของระบบหายใจ เกิดภาวะสมองอักเสบจนอันตรายถึงชีวิตได้
ทั้งนี้กรมปศุสัตว์ขอให้ประชาชนรับประทานเนื้อสัตว์ที่ปรุงสุกและไม่รับประทานสัตว์แปลก เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคดังกล่าว










