ผบ.ตร. จ่อฟันวินัยร้ายแรง ผกก.นครสวรรค์ พร้อมให้ออกราชการไว้ก่อน ยอมรับเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีไม่สบายใจ ทำภาพลักษณ์ตำรวจเสีย แนะเจ้าหน้าที่ดูไว้สิ่งไหนควรทำไม่ควรทำ พร้อมกำชับ ตำรวจตระเวนชายแดน, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจภูธรภาค 6 ประชิดตัว ผกก.โจ้-ลูกน้อง ป้องกันหลบหนี
วันที่ 24 ส.ค. 2564 พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เปิดเผยถึงกรณีคลิปหลักฐานทางคดีกรณีกล่าวหา พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผกก.โจ้ นำถุงคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดีล่อซื้อยาไอซ์ 3 ขีด และเรียกเงิน 2 ล้าน สุดท้ายผู้ต้องหาขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต ว่า ในส่วนของตัว ผกก.โจ้ ซึ่งมีคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่ ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 นั้น เวลานี้ได้กำชับให้ ตำรวจตระเวนชายแดน, ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจภูธรภาค 6 ติดตามตัวไว้อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้หลบหนี
ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางตำรวจเองมีความเสียใจต่อผู้ที่สูญเสีย และอยากจะฝากให้เป็นอุทาหรณ์ คนดีๆ ตำรวจดีๆ ยังมีอีกมาก ในส่วนที่ไม่ดีก็ต้องตัดทิ้งไป อยากให้เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูไว้ให้ดี ดูไว้ว่า นี่คือผลที่เกิดขึ้นจากการกระทำ สิ่งที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาพลักษณ์ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็ไม่สบายใจ ดังนั้น ตำรวจที่เหลืออยู่ ต้องทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและมั่นใจให้ได้
ทั้งนี้ ผบ.ตร. ย้ำว่า จะต้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกคน ด้วยการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะนี้รอการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น คาดว่า ในวันนี้ (24 ส.ค.) จะได้ข้อสรุป และตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พร้อมย้ำอย่าปล่อยให้หลบหนี จากรายงานด้วยวาจา พบว่า มีผู้ร่วมกระทำความผิด 13 นาย นอกจากนี้ จะมีการสืบสวนย้อนหลังด้วย
