‘ชัยวุฒิ’ ลั่นต้องปราบ เฟคนิวส์ ขอทำหน้าที่ปกป้องสถาบัน แจงไม่ได้เอื้อนายทุนฮุบดาวเทียมไทยคม

 ‘ชัยวุฒิ’ ลั่นต้องปราบ เฟคนิวส์ ขอทำหน้าที่ปกป้องสถาบัน แจงไม่ได้เอื้อนายทุนฮุบดาวเทียมไทยคม

‘ชัยวุฒิ’ ลั่นต้องจัดการ Fake News ขอทำหน้าที่ปกป้องสถาบันที่ถูกทำลายจากโซเชียล แจง ไม่ได้เอื้อเอกชน-นายทุนฮุบดาวเทียมไทยคม

วันที่ 3 ก.ย. 2564 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ชี้แจง หลังนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่ไว้วาวใจ การที่นายรังสิตมันต์ ใช้คำว่าระบบปรสิต กำลังดูถูกสมาชิกทุกคนในสภา การใช้คำปรามาสแบบนี้ไม่เหมาะสม ตนไม่ใช่ครอบครัว ลูกหลานนักการเมือง แต่เมื่อได้เข้ามาทำงานการเมือง และได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส ไม่ได้เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ นายรังสิมันต์ กล่าวถึง ไม่ทราบมาก่อนว่าบริษัทดังกล่าวทำธุรกิจสื่อสารอะไร เพราะลาออกมานานแล้ว แต่ภายหลังเมื่อทราบก็ระมัดระวังเพื่อป้องกันการครหา และไม่ได้เอื้อประโยชน์แต่อย่างใด

กกรณีดาวเทียมไทยคมเป็นสัมปทานที่ดำเนินการมา 30 ปี โดยสิ้นอายุวันที่ 30 ก.ย. 2564 ประเด็นที่ นายรังสิมันต์กล่าวอ้าง ธุรกิจดาวเทียมถูกผูกขาดโดยบริษัท ไทยคม มา 30 ปี วันนี้จะหาผู้ประกอบการรายใหม่มาทำไม่ใช่เรื่องง่าย กสทช. เปิดประมูลวงโคจรไม่นานนี้เพื่อนำดาวเทียมใหม่มาบริการประชาชน ซึ่งมีผู้ยื่นประมูลรายเดียว คือ บริษัท ไทยคม ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจเฉพาะเมื่อมีผู้ประมูลเพียง 1 ราย กสทช. จึงยกเลิกประมูลไปก่อน เช่นเดียวกันเมื่อดาวเทียมไทยคม 4 และ 6 ส่งมอบให้รัฐบาลโดยให้ NT ดูแล การทำธุรกิจดาวเทียม จำเป็นต้องใช้ตัวส่งสัญญาณบางส่วนของบริษัท ไทยคม ซึ่งเป็นเรื่องทางเทคนิคที่ NT ต้องไปศึกษา แต่ไม่ใช่การยกสิทธิ์หรือสัมปทานให้บริษัท ไทยคม กรณีหาก NT ไม่พร้อมก็ไปใช้หรือเช่าอุปกรณ์จากบริษัท ไทยคม เพื่อให้การส่งสัญญาณได้ต่อเนื่อง

ที่สำคัญดาวเทียมไทยคม 4 เป็นลูกค้าต่างประเทศถึง 87% ต้องยอมรับว่า NT ไม่สามารถไปทำธุรกิจต่างประเทศในเวลาอันจำกัดได้ ส่วนดาวเทียมไทยคม 6 จะเป็นดาวเทียมที่เรียกว่า ‘บรอสแคส’ ใช้สื่อสาร ดูทีวี โดยเป็นลูกค้าภาคเอกชน ภาครัฐ ประมาณ 60% คือลูกค้าในประเทศ การทำธุรกิจดาวเทียมของเอ็นที ไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัท ไทยคม ที่เป็นลักษณะสัมปทานผูกขาด ตัดตอน ต่อเนื่อง แบบที่กล่าวหา ผู้ใช้บริการทุกคนต้องได้รับการบริการอย่างต่อเนื่องไม่มีทีวีจอดำ อะไรที่จำเป็นต้องร่วมมือกับบริษัท ไทยคม ที่สำคัญต้องคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้เสียค่าบริการแพงกว่าเดิม การจัดสรรคลื่นความถี่ ก็ไม่คิดจะเอื้อประโยชน์ให้บริษัท ไทยคม

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า ไม่รู้จักอนุญาโตตุลาการเลย แต่เมื่อทราบว่ามีตำแหน่งว่างก็ทำหนังสือถึงอัยการสูงสุด (อสส.) ให้ส่งคนใหม่มา ทั้งหมดเป็นเรื่องของอสส. เพราะให้เกียรติอัยการ นายรังสิมันต์ ประติดประต่อเรื่องราวที่เลื่อนลอย เป็นการคาดเดา ยืนยันไม่มีการแทรกแซง

ประเด็น Fake News รัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมืองฝั่งตรงข้ามไม่เป็นความจริง ตนเองปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมฯ เพื่อความสงบสุขความเรียบร้อย เพราะตอนนี้มีการใช้โซเชียลอย่างแพร่หลาย เต็มไปด้วยสิ่งผิดกฎหมายที่ควบคุมไม่ได้ จึงมี พ.ร.บ.คอมฯ ไว้ควบคุมดูแลเอาผิดอาชญากรที่หลอกลวงประชาชน รวมถึงสร้างความแตกแยกให้กับแผ่นดิน ขณะที่กระบวนการดำเนินการเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม การปิด Fake News ไม่เกี่ยวกับกระทรวงดีอีเอส แต่เมื่อกระทรวงเห็นข้อความใดเข้าข่ายผิดกฎหมายจะรวมรวมส่งให้ศาล

“ผมเข้ามาทำงานในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส เพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และพี่น้องประชาชน วันนี้สถาบันกำลังถูกทำลายโดยโซเชียลมีเดีย เป็นข้อมูลเท็จ ทำให้คนเกลียดชังกัน เป็นที่สังคมไทยรับไม่ได้ เป็นการล้างสมองคนรุ่นใหม่ให้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างในประเทศ จนผมรับไม่ได้ จึงต้องทำหน้าที่ปกป้องรักษาสถาบันหลักของชาติไว้ ท่านอาจจะไม่ไว้วางใจผมที่มีความคิดอุดมการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน แต่เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศเข้าใจผม” นายชัยวุฒิ กล่าว

ทันทีที่ นายชัยวุฒิ ชี้แจงเสร็จสิ้น นายรังสิมันต์ ได้ลุกขึ้นประท้วงว่าภาพ และข้อความที่นายชัยวุฒิ ใช้ในการชี้แจงกลางสภา ทำให้สังคมมองว่าพรรคก้าวไกล เป็นผู้สร้าง Fake News ต่างๆ ในสังคม ทั้งที่สิ่งที่พรรคก้าวไกลทำมาตลอดมีเพียงการให้ข้อมูลแก่สังคมเท่านั้น รู้สึกผิดหวัง รัฐมนตรีดีอีเอส

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง