รวมไทยสร้างชาติ เลือก ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวหน้าพรรคปัดเป็นพรรคสำรองให้ ‘ประยุทธ์’

รวมไทยสร้างชาติ เลือก ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวหน้าพรรคปัดเป็นพรรคสำรองให้ ‘ประยุทธ์’ 

รวมไทยสร้างชาติ เลือก ‘พีระพันธุ์’ นั่งหัวหน้าพรรค  ‘เอกณัฐ’ เป็นเลขาธิการ ชูวิสัยทัศน์ แก้กฎหมายล้าสมัย – สร้างสังคมเท่าเทียม ปัดเป็นพรรคสำรองให้ พล.อ.ประยุทธ์ 

 พรรครวมไทยสร้างชาติ ประชุมใหญ่วิสามัญ ได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ดังนี้ 

1.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค

2.นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ุ เลขาธิการพรรค

3.นายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค

4.นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เหรัญญิกพรรค

5.นายวิทยา แก้วภราดัย กรรมการบริหารพรรค

6.นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง กรรมการบริหารพรรค

7.นายชื่นชอบ คงอุดม กรรมการบริหารพรรค

8.นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร กรรมการบริหารพรรค

9.นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ กรรมการบริหารพรรค

 นายพีระพันธุ์ เปิดเผยภายหลังได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า วันนี้นับเป็นครั้งแรกของการประชุมพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งมีเพื่อนพี่น้องร่วมอุดมการณ์เดียวกันที่มีความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานเพื่อบ้านเมือง และได้มีโอกาสกลับมารวมตัวเพื่อทำงานกันอีกครั้งหนึ่ง โดยได้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค กำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์การทำงานต่างๆ และเลือกให้ตนทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อเดินหน้างานด้านการเมืองต่อไป

พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคที่ได้รวบรวมกลุ่มคนทำงาน ที่มีความรู้ความสามารถ ทั้งคนที่มีประสบการณ์ในการเป็น ส.ส.ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชนมาแล้ว ผู้ที่เคยเป็น ส.ส. และคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจจะเข้ามาทำงานในฐานะนักการเมือง เพื่อขับเคลื่อนประเทศชาติตามวิสัยทัศน์หลักของพรรค คือการสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสในการดำรงชีวิตในทุกมิติอย่างเท่าเทียมกัน โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นพรรคการเมืองที่มุ่งเรื่องของการทำงานมากกว่าการเล่นการเมือง ซึ่งตนได้บอกกับทุกคนว่า อยากให้มองเห็นเรื่องของการทำงานเพื่อประเทศชาติประชาชนเป็นสำคัญ เพราะผลงานที่ทุกคนทำจะทำให้ได้รับการยอมรับจากประชาชนอย่างแท้จริง

นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นพรรคสำรองให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ตนไม่สนใจว่าใครจะพูดอย่างไร เพราะแต่ละคนก็มีชุดความคิดของตัวเองที่แตกต่างกันไปอยู่แล้ว ไม่สามารถห้ามความคิดของใครได้ และไม่จำเป็นที่จะต้องไปปฏิเสธว่าจริงหรือไม่จริง เพราะสุดท้ายความจริงก็จะปรากฏเอง แต่ความตั้งใจของการตั้งพรรคไม่ได้วางไว้ว่าจะมาเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านหรือมาสนับสนุนใคร เพราะสิ่งที่มองไว้คือการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นหลักเท่านั้น คือต้องการทำให้สังคมดีขึ้นกว่านี้ โดยไม่มองว่าจะต้องมีตำแหน่งอะไร เพราะเชื่อว่าหากทุกคนตั้งใจมาทำงานเพื่อประชาชนแล้ว ถึงไม่มีตำแหน่งอะไรก็สามารถทำงานได้เช่นกัน

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง