ครม.มีมติเห็นชอบขยายเวลาลดภาษีดีเซลลิตรละ 5 บาท ออกไปอีก 2 เดือน พร้อมยกเว้นภาษีดีเซล น้ำมันเตา ผลิตกระแสไฟฟ้า ออกไปอีก 6 เดือน ส่งผลสรรพสามิตเสียรายได้ 2 หมื่นล้านบาท

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่กลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้มีรายได้น้อย สำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน และกลุ่มใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วยต่อเดือน แต่ไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ย. – ธ.ค. 2565 โดยใช้งบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินและจำเป็นในปีงบประมาณ 65 และ 66 ในวงเงิน 9,000 ล้านบาท และมีผลทันต่อการคำนวณบิลค่าไฟช่วงสิ้นเดือนก.ย.นี้
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟเกิน 4 เดือนว่า จะต้องติดตามราคาก๊าซก่อน สถานการณ์ตอนนี้ยังประมาทไม่ได้ ซึ่งราคาก๊าซธรรมชาติที่นำเข้ายังสูงอยู่ สิ่งสำคัญ คือ การประหยัดพลังงาน เพราะราคาค่าไฟที่แพงขึ้นมาจาก 20% ของหน่วยสุดท้ายของการผลิตไฟฟ้า ถ้าประหยัดได้ 20% ค่าไฟจะลดลงทันที ส่วนแผนระยะยาวคือ การเพิ่มพลังงานสะอาดมากขึ้น และการหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ หรือแหล่งพลังงานในประเทศ ซึ่งจะมีการเปิดประมูลสัมปทานรอบใหม่ และการหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา เป็นต้น
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังเห็นชอบมาตรการต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 5 บาทต่อลิตร ต่อไปอีก 2 เดือน จากที่จะหมดอายุวันที่ 20 ก.ย. 2565 โดยรัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท
รมว.พลังงาน กล่าวว่า ที่ให้ต่ออายุมาตรการ 2 เดือน เนื่องจากจะขอดูเรื่องวินัยการเงินการคลัง และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การเก็บภาษีว่ามีความพร้อมหรือไม่ ส่วนมาตรการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ของประชาชน อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการคลังในการออกมาตรการทางภาษีสนับสนุนการติดตั้งของประชาชน

workpointTODAY ร่วมกับมูลนิธิฟรีดริช เนามัน ชวนร่วมกิจกรรม Thailand Talks เพื่อพูดคุยกับคนเห็นต่างในหลากหลายประเด็น ตอบคำถามด้านล่างเพื่อลงทะเบียน










