นายกฯ เผย กลางเดือน ธ.ค. เคาะของขวัญปีใหม่ ย้ำต้องไม่เป็นภาระการเงินการคลังในอนาคต ถามกลับนโยบายเพื่อไทย ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บ. – ป.ตรี 25,000 บ. เอาเงินจากที่ไหน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการพิจารณาของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนว่า ตอนนี้ทยอยพิจารณา เพราะยังมีเวลา หลายอย่างเป็นมาตรการที่เป็นของหน่วยงาน ซึ่งต้องพิจารณาให้รอบคอบ และพยายามจะทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่ทำเพื่อการเมือง แต่เป็นสิ่งที่เราทำมาทุกปีอยู่แล้ว อะไรที่ทำได้เราก็ทำ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตด้วย ก็ต้องระมัดระวังอย่างที่สุด
สำหรับแพ็คเกจช้อปดีมีคืน และเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ หลังเดินทางกลับมาจากการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ เพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 15 ธันวาคมนี้ ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม และขณะนี้รอหน่วยงานอื่นที่ยังอยู่ในขั้นตอนทางกฎหมายด้วย รวมถึงการเตรียมงบประมาณ ซึ่งจะมีการตัดสินใจกันอีกครั้ง
ทั้งนี้การพิจารณาโครงการต่างๆ ต้องดูงบประมาณที่เรามีอยู่เพียงพอหรือไม่ อันไหนทำได้หรือทำไม่ได้ อันไหนที่ทำแล้วจะเป็นปัญหาต่อไปในวันข้างหน้า ก็ต้องดูให้ดี ถ้าเรามองการเมืองอย่างเดียว แน่นอนทุกคนต้องการมากที่สุดดีที่สุดใช่หรือไม่ แต่เราในฐานะที่เป็นนายกฯ ก็ต้องให้มีการตรวจสอบคัดกรองให้ดี การใช้จ่ายงบประมาณแต่ละโครงการมันใช้มากน้อยเพียงใด ซึ่งก็อยากทำให้ประชาชน แต่เราก็ไม่อยากสร้างภาระทางการเงินการคลังในวันข้างหน้าด้วย ขอให้ระมัดระวัง
ส่วนความชัดเจนทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี เพราะแต่ละพรรคเริ่มขยับแล้ว ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ประกาศนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องไปดูว่า ทำได้จริงหรือไม่ หลายเรื่องมีการเปิดเผยมาโดยตลอด แต่ไม่ง่ายนักที่จะทำ ซึ่งรัฐบาลได้วางโครงสร้างต่างๆ เพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต และการขึ้นค่าแรงต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ 3 ฝ่าย และต้องดูว่า นักลงทุนและผู้ประกอบการจะรับไหวหรือไม่ และปัจจุบันสำหรับแรงงานที่มีฝีมือ ก็ได้รับค่าแรงสูงมากกว่า 600 บาทแล้ว และมีการพัฒนาฝีมือแรงงานให้ได้ค่าแรงตามขีดความสามารถ และตอบสนองกับแรงงานยุคใหม่ ให้สามารถทำงานกับเครื่องจักรและเกี่ยวข้องกับกิจการที่มีรายได้สูง
ส่วนนโยบาย นักศึกษาจบปริญญาตรี รายได้ 25,000 บาทต่อเดือน มีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้อนถามกลับว่า เอาเงินมาจากไหน ถ้ามีเงินก็โอเค ให้เท่าไหร่ก็ได้ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนพัฒนาทุกอย่าง เพื่อเพิ่มจีดีพีให้กับประเทศ และรัฐมีค่าใช้จ่ายในการดูแลกลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนพิการ ซึ่งมากพอสมควรแล้ว
