สภาฯ พร้อมบรรจุร่างกฎหมายลูก หลัง รัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม บัตรเลือกตั้ง 2 ใบมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้
วันที่ 22 พ.ย. 2564 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 1) พุทธศักราช 2564 มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันนี้ สาระสำคัญ คือ
– กลับไปใช้ระบบเลือกตั้งแบบ “บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ”
– จำนวน ส.ส. เขต จาก 350 เป็น 400 คน
– ส.ส. บัญชีรายชื่อ จาก 150 เหลือเป็น 100 คน
– การคำนวณ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เลิกระบบจัดสรรปันส่วนผสม เป็นการใช้คะแนนที่ประชาชนเลือกแต่ละพรรครวมกันทั้งประเทศ และไม่มีกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ

นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า หลังรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม มีผลใช้บังคับ กระบวนการต่อไปที่รัฐสภาต้องเตรียมรับ คือ การแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง รวม 2 ฉบับ ซึ่ง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต. ) มีหน้าที่เตรียมกฎหมายส่งให้รัฐบาล ก่อนที่จะเสนอมายังรัฐสภา หรือ ส.ส. สามารถเข้าชื่อเสนอมารัฐสภาก็ได้ คาดว่า จะเสนอมาประมาณช่วงเดือนธันวาคม 2564 หรือ มกราคม 2565
โดยได้สั่งการให้ฝ่ายเลขาของสภาฯ เตรียมรับกฎหมายที่จะเสนอเข้ามา แล้ว เชื่อว่า ไม่น่าจะล่าช้า เพราะ กกต. เตรียมการไว้ล่วงหน้า แต่ขึ้นอยู่ที่รัฐบาลจะเสนอมาเมื่อใด ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะเสนอมาในช่วงธันวาคมได้ และจะบรรจุในระเบียบวาระทันที อีกทั้งกฎหมายที่แก้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งไม่ได้ซับซ้อนมากนัก จึงจะใช้เวลาไม่นาน
นายชวน ยอมรับว่า ระหว่างนี้ที่กฎหมายลูก 2 ฉบับ ยังไม่แล้วเสร็จ หากมีอุบัติเหตุทางการเมือง หรือยุบสภา จะทำให้เกิดปัญหาได้ เพราะกฎหมายจะใช้บังคับสำหรับการเลือกตั้งทั่วไป แต่ก็หวังว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ฝ่ายค้าน เลื่อนยื่นอภิปรายฯ ม.152 รัฐบาล เป็นหลังปีใหม่

รังสิมันต์ โรม-นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว แขก workpointTODAY
Slack
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการยื่นอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน มีข้อสรุปว่า จะยื่น อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 รัฐบาล หลังปีใหม่ 2565 เพราะหากยื่นขณะนี้ มองว่ายังไม่เหมาะสม การบรรจุวาระการประชุมอาจจะติดกับเทศกาล จะส่งผลกับเวลาการอภิปราย ส่วนรายละเอียดของการญัตตินั้น ได้ให้แต่ละพรรคไปพิจารณาปัญหาที่อยากจะเสนอ และมาร่วมกันเสนอในนามพรรคร่วมฝ่ายค้านเพียงญัตติเดียว
ด้าน นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ (ร่างกฎหมายลูก) ที่จะยื่นในนามพรรคก้าวไกล ว่า เนื้อหาอาจจะเสนอให้ระบบการเลือกตั้งเสรี โปร่งใสมากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้พรรคการเมืองเป็นสถาบันการเมืองเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เช่น เสนอตั้งพรรคการเมืองได้ง่ายแต่ถูกยุบยาก แต่ทั้งนี้ยังไม่เห็นเนื้อหาของแต่ละพรรค จึงไม่ทราบว่าจะแตกต่างกันอย่างไร และที่ประชุมของพรรคก้าวไกล ยังไม่ได้เห็นชอบ จึงขอให้รอผลที่ประชุมก่อน
นพ.ชลน่าน กล่าวเสริมอีกว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้หารือประเมินสถานการณ์การเมืองอยู่ตลอด และเชื่อว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ เพราะเห็นว่า ขณะนี้ไม่มีความมั่นคง ไม่มีเสถียรภาพ แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมพร้อมตลอด หากมีการยุบสภา ก่อนร่างกฎหมายลูกเสร็จ ฝ่ายบริหารก็จะต้องออกพระราชกำหนด แต่พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะพยายามทำกฎหมายประกอบนี้ให้รวดเร็ว เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งหน้า ใช้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับที่ผ่านความเห็นชอบของสภา
วิปรัฐบาล หารือ กกต. – ครม. ก่อนเสนอร่างกฎหมายลูก

ขณะที่ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ และประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล)ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมจะหารือถึงการเตรียมจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หลังโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
โดยเบื้องต้นได้มีการตั้งคณะทำงานเพื่อรวบรวมแนวทางการจัดทำกฎหมายลูก ที่แต่ละพรรคการเมืองได้กำหนดไว้บ้างแล้ว เพื่อนำไปเป็นแนวทางยกระดับจัดทำในนามของพรรคร่วมรัฐบาลตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งก่อนจะได้แนวทาง และ ข้อสรุปจะต้องหารือร่วมกับทาง กกต. ด้วยเพื่อความชัดเจนของร่างที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ
นอกจากนี้ จะมีการพูดคุยกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะต้องจัดทำร่างของครม. อีกหนึ่งฉบับ เพื่อนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร จึงทำให้ฝ่ายรัฐบาลจะมีการจัดส่งร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ คือ ร่างของครม. และร่างของพรรคร่วมรัฐบาล










