นพ.ชลน่าน แถลงเปิดญัตติ พล.อ.ประยุทธ์ทำประเทศแพงจนพังทั้งแผ่นดิน แนะยุบสภา-ลาออก ด้านพล.อ.ประยุทธ์ ยันพร้อมชี้แจงทุกประเด็น ตอบกลับอยู่สภาเล่นบทพระราม-พระลักษมณ์ ฉะนั้นอีกฝ่ายต้องเล่นบททศกัณฐ์ และคงรู้อยู่แล้วว่าจุดจบเป็นอย่างไร
วันที่ 17 ก.พ. 2565 วันแรกของการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยข้อตกลงกรอบเวลาวันแรก 09.30-00.30 น. วันที่สอง 09.00-24.00 น. แบ่งสัดส่วนเวลาพรรคร่วมฝ่ายค้าน 22 ชั่วโมง รัฐบาล และ ครม. 8 ชั่วโมง
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทยในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน แถลงเปิดญัตติ โดยมีการกล่าวถึงประเด็นหลักในญัตติ คือ วิกฤติเศรษฐกิจ ในยุคข้าวของแพงค่าแรงถูก แพงทั้งแผ่นดิน, วิกฤติโรคระบาด ทั้งโควิด-19 โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF), วิกฤติทางด้านการเมืองและวิกฤติเรื่องของความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ที่ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย พร้อมยืนยันว่า การอภิปรายวันนี้เป็นการทำหน้าที่ของ ส.ส. ที่เห็นประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่า ผมจะทำหน้าที่ชี้เป้า ในประเด้นข้อเทม็จจริง หรือข้อปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อให้สมาชิกขยาย ไม่ได้มุ่งหมายถล่มนายกรัฐมนตรี แต่มุ่งถล่มปัญหาเสนอแนวทางแก้ สรุปญัตติสั้นๆ คือแพงจนพังทั้งแผ่นดิน นี่คือการทำงานร่วมกันให้แก้ปัญหาบ้านเมือง ไม่ต้องเก็งข้อสอบและกังวลใดๆ การอภิปรายจะครอบคลุมทุกมิติ
ในช่วงท้าย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ที่ฝ่ายค้านจะเสนอปัญหา ข้อเสนอแนะ เพื่อแก้ปัญหาในทุกมิติ และมีข้อเสนออย่างชัดเจนเชื่อว่านายกฯ รักประเทศ ประชาชน แต่รักไม่ถูกวิธี อยากให้เอาจิตใจที่ดีของท่าน ทำประโยชน์ให้ประชาชน ด้วยการประกาศออกจากตำแหน่งนี้ เพื่อมี ครม.ใหม่ หรือดีที่สุด คืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน ประกาศยุบสภาเลือกตั้งกันใหม่ มอบอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ ว่าจะให้ใครบริหารประเทศต่อไป เชื่อจะแก้ปัญหาได้แบบเบ็ดเสร็จ เด็ดขาด แพงจนพังทั้งแผ่นดินจะแก้ไขได้
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ชี้แจงว่า อะไรที่เป็นประโยชน์และสามารถนำไปแก้ไขได้ ก็พร้อมรับไปดำเนินการ แต่ขณะนี้เกิดหลายสถานการณ์พร้อมกัน ซึ่งรัฐบาลก็พยายามดำเนินการมาโดยตลอด จากข้อมูลที่กล่าวมานั้นยังไม่ได้ลงในรายละเอียด
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพร้อมจะชี้แจง เพื่อไม่ให้ประชาชนรับฟังแต่โจทก์อย่างเดียวแต่ให้ได้รับฟังการแก้ปัญหา ความก้าวหน้าการแก้ปัญหาต่างๆ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวในช่วงหนึ่งว่า ครั้งหนึ่ง ซึ่งนพ.ชลน่าน ได้บอกกับตนว่า เข้าสภาควรจะวางบทบาทให้เหมือนกับรามเกียรติ์ ให้ตนเล่นบทพระราม พระลักษมณ์ อะไรทำนองนี้ ฉะนั้นอีกฝ่ายก็เล่นบททศกัณฐ์ใช่ไหม ผมคิดว่าประเทศชาติคงไม่ใช่แบบรามเกียรติ์หรอกนะ แต่ท้ายที่สุดรามเกียรติ์ คงรู้อยู่แล้วว่าทศกัณฐ์เป็นอย่างไรตอนท้าย อันนั้นคือข้อเท็จจริง
