‘พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา’ น้อง ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ รอด มติ ป.ป.ช. 8:1 ไม่ชี้มูล คดีแสดงทรัพย์สินเท็จ กรณีมิได้แจ้งถือครองบ้านใน จ.พิษณุโลก รวมถึงข้อมูลบัญชีเงินฝากของนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยา
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติ 8 ต่อ 0 เสียง (นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. ไม่ได้เข้าร่วมประชุม) แจ้งข้อกล่าวหาแก่ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม และกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) คดีถูกกล่าวหาว่า พล.อ.ปรีชา จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเท็จและเอกสารประกอบ หรือปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ กรณีมิได้แจ้งถือครองบ้านใน จ.พิษณุโลก รวมถึงข้อมูลบัญชีเงินฝากของ นางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภริยานั้น
โดยเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2564 หลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหา พล.อ.ปรีชา ในประเด็นดังกล่าว โดยให้ผู้ถูกกล่าวหามารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนั้น ปัจจุบัน พล.อ.ปรีชา เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าวแล้วนั้น
รายงานข่าวกล่าวว่า ในวันนี้มีการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยทราบว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ในฐานะประธานในที่ประชุม นำวาระของพล.อ.ปรีชาเข้าที่ประชุมเป็นวาระจร โดยน่าสังเกตว่า พล.อ.ปรีชา เพิ่งชี้แจงข้อกล่าวหาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และกรรมการปปช.เพิ่งได้รับเอกสารดังกล่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้ ดังนั้นน่าสังเกตว่ามีการเร่งรัด เร่งรีบ สรุปข้อกล่าวหา พล.อ.ปรีชา หรือไม่
รายงานข่าวกล่าวว่า มีกระแสข่าวว่าในช่วงก่อนหน้านี้ว่า พล.ต.ท. นายหนึ่งพยายามติดตามกรณีข้างต้น โดยไม่ทราบว่าเข้ามาติดต่อในฐานะใดและผู้ใดมอบหมาย เพราะเรื่องนี้ไม่มีการพาดพิงไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติเลย ทำให้เป็นที่น่าสังเกตว่า การดำเนินการดังกล่าวของ พล.ต.ท. นายนี้ผิดปกติ เพราะน่าจะเชื่อมโยงกับกระแสข่าวการเมืองเกี่ยวกับการยุบสภาหรือปรับครม. เพราะทราบในทางลับว่า พล.ต.ท.นายนี้เคลื่อนไหวลับๆ ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมาถึงตอนนี้กับอดีต พล.ต.อ. นายหนึ่ง, นายทุนใหญ่ด้านพลังงานของไทย และนักการเมืองบางคนฝ่ายรัฐบาลอีกด้วย
ล่าสุด มีรายงานว่า มติกรรมการ ป.ป.ช. ในการพิจารณาคดีของ พล.อ.ปรีชา มติ 8:1 ไม่ชี้มูลความผิด เพราะมีพยานยืนยันว่าบ้านที่ก่อสร้างเเล้วไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้นเพราะยังก่อสร้างไม่เสร็จจึงไม่ได้ยื่นบัญชี ส่วนอาคารพาณิชย์(ตึกแถว)นั้นใช้เงินจากบัญชีธนาคารของพล.อ.ปรีชาในการซื้อ
กรณีนี้มีนายตำรวจชั้น พล.ต.ท. พยายามประสานให้มีการชี้มูลความผิด พล.อ.ปรีชา เพื่อหวังผลบางอย่างทางการเมือง เพราะ พล.อ.ปรีชา คือน้องชายนายกรัฐมนตรี










