กลาโหม แจง กมธ.วิสามัญงบฯ ปี 66 จัดซื้อเครื่องบิน แก้ปัญหาเรือดำน้ำไร้เครื่องยนต์

กลาโหม แจง กมธ.วิสามัญงบฯ ปี 66 จัดซื้อเครื่องบิน แก้ปัญหาเรือดำน้ำไร้เครื่องยนต์

การเมือง

กลาโหมชี้แจงจัดซื้อเครื่องบิน ทอ. ระบุเป็นไปตามกระบวนการ รอผ่านสภาคองเกรส สหรัฐฯ หากไม่ผ่านยืนยันมีแผนรองรับ 

ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 เพื่อพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม วงเงิน 197,292,732,000 ล้านบาท  นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ.วิสามัญฯ กล่าวว่า กรณีการซื้ออากาศยานไร้คนขับหรือยูเอวีของกองทัพเรือว่ามีรายละเอียดอย่างไร และการแก้ปัญหาเรือดำน้ำที่ไร้เครื่องยนต์ ลำพังกองทัพเรือคงไม่สามารถยุติปัญหาดังกล่าวได้ เพราะการทำสัญญาเป็นการซื้อแบบรัฐต่อรัฐ จึงต้องการทราบว่ากระทรวงกลาโหมจะดำเนินการอย่างไร นอกจากนี้ยังได้สอบถามถึงงบประมาณเครื่องบินรบแบบยุทธศาสตร์ F-35 A ของกองทัพอากาศซึ่งเริ่มตั้งงบในปี 2566 ในราคาลำละ 2,900 ล้านบาท และจะจัดซื้อเบื้องต้น 4 ลำ ว่า การซื้อเครื่องบินรุ่นดังกล่าวทราบว่ามิว่าไม่ใช่ใครก็จะซื้อได้ แต่จะต้องได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นจึงอยากทราบว่าการที่สภาฯ ตั้งงบประมาณในการขอจัดซื้อ ได้รับอนุมัตินั้นจากสภาคองเกรสแล้วใช่หรือไม่ และหากยังไม่ได้รับอนุมัติ ขั้นตอนในการขออนุมัติ จะใช้เวลานานเท่าใด ทั้งนี้ เพราะหากยังไม่มีการอนุมัติ แล้วให้สภาฯ ตั้งงบไปก่อน คำถามต่อมาคือ จะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ทันหรือไม่

พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกมธ.งบประมาณฯ ว่า ทุกเหล่าทัพมีนโยบายชัดเจนในการลดกำลังพล เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1ต.ค.2563 ตั้งเป้าภายในปี2570 อัตราผู้ทรงคุณวุฒิต้องลดลง50%  ขณะที่กำลังพลทั่วไปลดลง 5% ของอัตราบรรจุจริง ขณะนี้การรับสมัครนักเรียนนายสิบ นายร้อย นายเรือ และนายเรืออากาศปรับลดจำนวนลงตามลำดับ ยกเว้นในอนาคตหากมีสถานการณ์จึงจะพิจารณาตามสถานการณ์ ส่วนการเกณฑ์ทหารลดลงต่อเนื่อง ปีนี้เรียกประจำการเพียง 8หมื่นคนเศษ เนื่องจากการนำทหารเข้าประจำการไม่ได้มีแค่เงินเดือน เบี้ยเลี้ยง แต่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆเช่น ค่าเครื่องแบบ เครื่องแต่งกาย กองทัพบกจะเดินหน้านโยบายสมัครใจเป็นทหารเกณฑ์  ทหารที่ถูกเรียกเข้าประจำการจะมีทั้งเงินเดือน เบี้ยเลี้ยง ส่งผลให้ปัจจุบันมีตัวเลขทหารปลดประจำการ ขอสมัครอยู่ต่อเพิ่มขึ้น เพราะมีเงินส่งให้ครอบครัว

ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สำหรับงบราชการลับเป็นความจำเป็นในการรักษาความมั่นคง การใช้งบเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ปี2547 ให้ใช้ทำใน 4 ภารกิจ อาทิ ด้านความมั่นคง ปราบยาเสพติด การข่าว เป็นต้น ทุก 3 เดือน ต้องเสนอรายงานการใช้จ่ายให้รมว.กลาโหมทราบ ส่วนเรื่องรถประจำตำแหน่งนั้น ใช้งบปกติ ไม่ได้ใช้งบลับจัดหา กรณีการซื้อโดรนตรวจการชายฝั่งกองทัพเรือ(ยูเอวี) เป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนอย่างถูกต้อง ผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ส่วนกรณีการแก้ไขปัญหาเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ว่า เราพยายามแก้ไขปัญหาให้เหมาะสมกับทั้ง 2 ฝ่ายโดยคำนึงถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศ แต่กระทรวงกลาโหมต้องปกป้องสิทธิและรักษาผลประโยชน์ของชาติอย่างดีที่สุด พยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาฉันท์มิตรที่ดีต่อกัน ส่วนการดำเนินการตามขั้นตอนเป็นเรื่องของกองทัพเรือเป็นผู้ดำเนินการหลัก ส่วนกระทรวงกลาโหมจะเป็นผู้กำกับนโยบาย ตอนทำทีโออาร์ก็ไม่คิดว่าเยอรมันจะไม่ขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำให้จีน ทั้งที่ที่ผ่านมาเขาขายให้มาตลอด

พล.อ.วรเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนการจัดซื้อเครื่องบิน F-35 ของกองทัพอากาศนั้น ยืนยันว่าช่วงแรกกองทัพอากาศได้ตั้งงบประมาณในการจัดหาเครื่องบินทดแทนโดยตั้งงบในปี 2561 แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเป็นเครื่องบินของประเทศไหน หลังจากนั้นกองทัพอากาศมีการพัฒนาแผนในการจัดหาที่มีความชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ในการเสนอซื้อเครื่องบินจะต้องมีงบประมาณรองรับ เพื่อเป็นหลักประกัน ส่วนกระบวนการจัดซื้อที่จะต้องผ่านสภาคองเกรสของสหรัฐฯนั้น ต้องเป็นเรื่องของสหรัฐฯ ที่ต้องดำเนินการ ในส่วนของเราแค่ขอสนับสนุน และแจ้งความประสงค์ไปว่าต้องการเครื่องบินที่ทันสมัย ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับสหรัฐฯในการดำเนินเร่งรัดให้อย่างไร และเชื่อทางกองทัพอากาศมีแผนรองรับอยู่แล้ว หากการดำเนินการล้าช้า หรือไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนจบการชี้แจงงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหม และกองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.เฉลิมพล ได้ขอขอบคุณ คณะกมธ. วิสามัญฯ ที่ให้เหล่าทัพได้มาชี้แจง จากนั้นขออนุญาตประธานในที่ประชุมเปิดเพลง “กองทัพไทยหัวใจเพื่อประชาชน” เพื่อให้ที่ประชุมเข้าใจภารกิจทหาร เพราะพูดไม่เก่ง จึงให้ลูกน้องรวบรวมว่ากองทัพได้ทำอะไรบ้าง โดยประธานอนุญาต เพื่อผ่อนคลายบรรยากาศการประชุม

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง