‘วินท์ สุธีรชัย’ ประกาศลาออกจาก ส.ส. พรรคก้าวไกล เตรียมเปิดตัวพรรคใหม่ ‘รวมไทย ยูไนเต็ด’
วันที่ 6 ต.ค. 2564 นายวินท์ สุธีรชัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เตรียมตั้งพรรคการเมืองใหม่
โดยระบุว่า “ตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากว่า 2 ปี ผมมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างสันติ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน และเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม วันนี้ ด้วยสถานการณ์และบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป ผมขอยุติบทบาทการทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยืนหยัดและเดินตามอุดมการณ์ของผมที่ได้แสดงเจตจำนงไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม
ผมขอขอบคุณพรรคอนาคตใหม่ที่ให้โอกาสผมเข้าสู่การเมือง ขอบคุณพรรคก้าวไกลที่ได้ให้ความไว้วางใจ และสนับสนุนผมตลอดมา ขอบคุณประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงเพื่อนสมาชิก ส.ส. ทุกท่านที่ให้การสนับสนุนการทำงานของผมอย่างดีในช่วงเวลาที่ได้ทำงานด้วยกัน ผมได้เรียนรู้ และได้รับประสบการณ์อย่างมากในการทำหน้าที่ตรงนี้ และจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปทำงานรับใช้ประชาชนอย่างดีที่สุด นับจากนี้ ผมขออุทิศตัวเองทำงานเพื่อประชาชน และเพื่อประเทศไทยที่รักของพวกเราทุกคนตามอุดมการณ์ทางการเมืองของผมต่อไป”
สำหรับการลาออกของ ‘วินท์ สุธีรชัย’ นั้น เพื่อที่จะไปตั้งพรรคการเมืองของตนเอง โดยคาดว่าจะใช้ชื่อ ‘รวมไทย ยูไนเต็ด’ และเตรียมแถลงข่าวเปิดตัวพรรค ในวันที่ 7 ต.ค. 2564

ในปี 2562 ก่อนเข้ามาเล่นการเมือง ‘วินท์ สุธีรชัย’ ผู้บริหารหนุ่มได้นำพาบริษัท Prime Steel Mill จำกัด ธุรกิจเกี่ยวกับเหล็ก ทำกำไรสูงึง 10,000 ล้านบาท หลังก่อตั้งบริษัทได้เพียง 5 ปี

โฆษกก้าวไกล แจง ส.ส.ลาออกเป็นเอกสิทธิ์ส่วนบุคคล แนวทางต่างแล้วลาออก ถือว่าสง่างามกว่าคนที่ฝ่าฝืนมติพรรค
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล ชี้แจงกรณีที่ นายวินท์ สุธีรชัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยระบุว่า ว่าการลาออกของ วินท์ สุธีรชัย นั้น พรรครับทราบแล้วและถือเป็นเอกสิทธิ์ส่วนบุคคลที่สามารถทำได้
ในส่วนการทำงานของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็นงานในสภาฯ หรืองานในพื้นที่ การลาออกครั้งนี้ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดเพราะขณะนี้ ส.ส.และทีมงานของพรรคก้าวไกลเดินหน้าทำงานเต็มศักยภาพเพื่อรับใช้พี่น้องประชาชน
ส่วนกรณีที่มีการสันนิษฐานว่าการการลาออกของวินทร์เกิดจากมีแนวทาง หรืออุดมการณ์ที่ไม่ตรงกับพรรค หรือแม้แต่ไปตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น นายณัฐชา กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองในวันเลือกตั้งครั้งหน้า
“สำหรับพรรคก้าวไกล กรณีที่ ส.ส.มีแนวทางที่แตกต่างจากพรรคแล้วลาออกไป ผมถือว่าสง่างามกว่าคนที่ฝ่าฝืนมติพรรคในการโหวตสำคัญๆ แต่กลับยังอาศัยชื่อพรรค ไม่ยอมลาออกจากพรรค นี่เท่ากับเป็นการทรยศต่อเสียงที่ประชาชนเลือกมา ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน” นายณัฐชากล่าว










