หมอพรทิพย์ ในฐานะ กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา ระบุจะช่วยพิสูจน์การเสียชีวิต แตงโม นิดา อย่างเต็มที่ หลัง แม่แตงโม ส่งทนายประสานขอความช่วยเหลือ ลั่นนิติเวชมีหน้าที่พูดแทนคนตาย
วันที่ 7 มี.ค. 2565 นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโมพร้อมญาติของแตงโม เข้าพบคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภาที่มี นายสมชาย แสวงการ เป็นประธาน และมีแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์โรจนสุนันท์ ส.ว. ร่วมเป็นกรรมาธิการฯ
นายกฤษณะ กล่าวว่าการมาพบ กมธ.ครั้งนี้เพื่อขอคำปรึกษาเรื่องการชันสูตรศพแตงโม และการพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ในคดี เพื่อให้กรรมาธิการได้เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบคดีนี้ด้วย
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า บทบาทของตนเองตอนนี้ ไม่สามารถเข้าไปร่วมผ่าชันสูตรศพได้ เพราะไม่ได้มีหน้าที่ตรงนั้นแล้ว จึงได้ให้คำแนะนำกับทางทนายให้ไปคุยกับทางตำรวจและตนเองพร้อมเป็นที่ปรึกษา ทั้งนี้หลังจากมีการหารือแล้ว ได้มีข้อแนะนำข้อแรกคือให้ไปคุยกับทางตำรวจแล้วตนจะช่วยเชื่อมต่อข้อมูลให้
สองในฐานะที่เป็น กมธ. ประเด็นหลักที่ไม่ได้อยู่เฉพาะที่ศพ และได้บอกคร่าวๆ ไปแล้วว่าอะไรที่ควรต้องติดตามเพื่อประโยชน์แห่งความจริงแห่งคดี ท้ายสุดเราทราบดีว่าทุกคนต่างทำเพื่อแตงโม เชื่อว่าจะได้ข้อมูลมาได้โดยสมบูรณ์โดยเร็ว
ซึ่งสิ่งที่ควรติดตามสำหรับญาติคือประโยชน์แห่งความจริงแห่งคดีที่ญาติมีสิทธิที่รับรู้ความจริงในคดีได้เต็มที่ ครั้งนี้น่าจะถึงเวลาที่ทำให้สังคมรับรู้สิทธิของเหยื่อ แตงโมเป็นเหยื่อ ญาติของแตงโมต้องรู้ เข้าถึงซึ่งข้อมูลได้ สิ่งนี้เป็นหลักสากล หลักสหประชาชาติบอกเลยว่าเหยื่อมีสิทธิได้รับรู้และได้รับการเยียวยา ส่วนหนึ่งที่ดึงเรื่องเข้ามา กมธ. เพราะไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องการชันสูตรศพครั้งที่ 2 อย่างเดียว
แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ปกติตนทำงานจะให้ญาติดูผ่าศพว่าเจออะไรบ้าง นำหลักฐานโดยรูปถ่ายเป็นรายงานให้ญาติไป และบอกว่าเจออะไรบ้าง ข้อมูลจากนิติเวชมีหน้าที่พูดแทนคนตาย ที่ผ่านมาเป็นอย่างนี้ แต่ญาติทั่วไปจะไม่ได้ เพราะเป็นวัฒนธรรมว่าข้อมูลเหล่านี้ต้องไปถามกับตำรวจ ญาติก็จะไม่รู้ หรือญาติจะไปรู้จากสื่อ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องจริงทั้งหมดหรือไม่ ซึ่งตรงนี้ตนได้ให้คำปรึกษากับทางทนายความและญาติแตงโมแล้ว
และในฐานะ กมธ. สามารถมีหนังสือเรียกผู้เกี่ยวข้องให้มาชี้แจงหรือมาพูดคุยได้ ดีกว่ามาหาหมอพรทิพย์เฉยๆ เพราะหมอพรทิพย์ไม่สามารถเข้าถึงซึ่งหลักฐาน รูปถ่ายต่างๆ ซึ่งประเด็นต่างๆ ที่เป็นคำถามตอนนี้สามารถตอบได้ด้วยรูปถ่ายและหลักฐาน ยืนยันว่าญาติต้องเข้าถึงรูปถ่ายและหลักฐาน ทั้งนี้จากประสบการณ์การทำงานในด้านนี้ เห็นว่าคดีนี้ไม่ยาก ที่จะทำให้เกิดความกระจ่างว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเป็นฆาตกรรม ถ้ามีส่วนประกอบการตายที่สมบูรณ์
นายสมชาย กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ตนเป็นกมธ. มามีหลายเคสที่ต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์ทุกอย่าง มีการผ่าศพ ทั้งผ่าซ้ำและไม่ซ้ำ มีซึ่งต้องภาพถ่ายที่สามารถบอกได้ว่าบาดแผลเกิดจากอะไร กรณีแตงโม ถ้าญาติประสงค์จะทราบและเห็นข้อมูล กมธ. ก็จะประสานติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากมีหน่วยงานที่จะสามารถผ่าชันสูตรศพได้อีกรอบก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าไม่ได้ การได้ภาพถ่ายการผ่าศพก็จะนำมาเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งสิ่งที่ญาติอยากรู้คือสาเหตุการตายเกิดจากอะไร ส่วนในเรื่องรูปคดี ว่าใครเป็นคนทำหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของคดี เราต้องการค้นหาความจริง










