‘พระมหาไพรวัลย์’ แจงปมร่ำไห้กลางไลฟ์สด ยันไม่ได้ผิดหวังเรื่องยศตำแหน่ง

‘พระมหาไพรวัลย์’ แจงปมร่ำไห้กลางไลฟ์สด ยันไม่ได้ผิดหวังเรื่องยศตำแหน่ง

ในประเทศ

 มส.เสนอชื่อ ‘พระราชปัญญาสุธี’ เป็นเจ้าอาวาสแล้ว ขณะที่ ‘พระมหาไพรวัลย์’ แจงปมร่ำไห้ตอนไลฟ์เฟซบุ๊ก ยันไม่ได้ผิดหวังเรื่องยศตำแหน่ง 

วันที่ 31 ต.ค. 2564 หลังจากที่ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ไลฟ์เฟซบุ๊กประกาศเตรียมลาสิกขา (สึก) เนื่องจากเป็นต้นเหตุทำให้ พระราชปัญญาสุธี รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งมองว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรม และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายมุมมอง

โดยชาวโซเชียลรายหนึ่งระบุว่า “เรื่องการคาดหวังต่อยศตำแหน่ง เมื่อผิดหวังแล้วก็เสียอกเสียใจนั้น…เรื่องนี้มันธรรมดามากๆ สำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับสถานภาพพระสงฆ์แล้ว…การแสดงออกถึงความเสียใจต่อความผิดหวังเรื่องยศตำแหน่ง ถึงขนาดร่ำไห้ออกมา…ขออนุญาตแสดงความเห็นว่า นั่นไม่ใช่มาตรฐานที่ ‘พระดี’ ควรปฏิบัติ”

ล่าสุด พระมหาไพรวัลย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กถึงเรื่องดังกล่าว ระบุว่า อาตมาไม่รู้ว่าเป็นบทความของใครนะ แต่อาตมาขออนุญาตแลกเปลี่ยน ประเด็นแรก คืออาตมาไม่ได้ร่ำไห้เพราะผิดหวังเสียใจเรื่องยศตำแหน่ง ใครก็ตามที่พูดแบบนี้แสดงว่า แม้แต่ความอดทนที่จะนั่งฟังไลฟ์สดที่เป็นประเด็นของอาตมาจนจบ ก็ยังทำไม่ได้เลย เมื่อฟังไม่จบก็เป็นแบบที่เห็น คือนั่งเทียนเขียนวิจารณ์ไปเอง ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างคนละเรื่องกัน

ประเด็นที่สอง ใครก็ตามที่มองเรื่องยศตำแหน่งในวงการคณะสงฆ์เป็นแค่เรื่องยศตำแหน่ง คนๆ นั้นสะท้อนความตื้นเขินของตัวเองที่มีต่อความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ เพราะยศตำแหน่งในทางคณะสงฆ์มันมิใช่เพียงแค่ยศตำแหน่ง มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่มันผูกพันกับอำนาจในการปกครอง อำนาจในการให้คุณและให้โทษกับผู้ที่อยู่ใต้อาณัติของยศตำแหน่งนั้นๆ อย่างแยกไม่ออก

ที่สำคัญที่สุด แม้เพียงตำแหน่งในฐานะของเจ้าอาวาส หากมิได้พระภิกษุผู้ที่เป็นรัตตัญญู หรือมีพรหมวิหารธรรมอย่างมากพอในการจัดการดูแล ไม่ได้ผู้ซึ่งมีที่มาที่ชอบธรรมหรือเป็นที่ยอมรับนับถือของสังฆะทั้งหมดในอาราม

พระภิกษุผู้นั้น ถึงที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมภาร ย่อมจะตกอยู่ภายใต้ภยาคติ หรือไม่ก็ลุแก่อำนาจอย่างง่ายๆ ย่อมจะใช้อำนาจนั้น รังแกพระลูกวัดไม่ในทางใดก็ทางหนึ่งก็ได้ ถึงที่ผิดน้อยก็อาจให้ผิดมาก หรือถึงที่ไม่ชอบพอก็อาจไล่พ้นไปจากอาราม  เรื่องเหล่านี้มีปรากฎให้เห็นอยู่มากแต่เก่าก่อนทีเดียว

อาตมาดีใจที่ชาวพุทธในสังคมไทยส่วนใหญ่ เข้าใจหลักธรรมของพระพุทธศาสนากันอย่างลึกซึ้งดีเหลือเกิน แต่อาตมาเศร้าใจอย่างหนึ่ง เศร้าใจที่คนพุทธจำนวนไม่น้อยไร้เดียงสาต่อหลักการปกครองในพระราชบัญญัติแห่งคณะสงฆ์ไทย

นอกจากนี้ พระมหาไพรวัลย์ ยังระบุอีกว่า ที่ยกมาเขียนนี่ไม่ใช่อะไรนะ แค่เห็นว่ามีคนมองแบบนี้เยอะ จะได้ถือโอกาสอธิบายรอบเดียว และคนอื่นก็พลอยจะได้ความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องไปด้วย

ด้านนายสิปป์บวร แก้วงาม  รอง ผอ.รักษาราชการ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้กล่าวถึงกรณีการไลฟ์ของ พระมหาไพรวัลย์ รวมถึงที่ พระมหาสมปอง ตาลปุตโต แห่งวัดสร้อยทอง ที่ได้กล่าวว่าจะขออยู่ต่ออีก 2 ปีก่อนจะลาสิกขาตามพระมหาไพรวัลย์ หาก พระราชปัญญาสุธี ไม่ได้เป็นเจ้าอาวาสว่า ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองไปนำประเด็นเรื่องเจ้าอาวาสมาจากไหน หรืออาจจะเห็นจากนโยบายของพระธรรมวชิรมุนี (บุญชิต ณาณสังวโร) เจ้าคณะกรุงเทพฯ ที่มีนโยบายในการจะดูความประพฤติของพระสงฆ์ที่มีการออกทางสื่อออนไลน์ด้วย จึงอาจจะทำให้โยงไปถึงเรื่องเจ้าอาวาส

การแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดที่เป็นพระอารามหลวงนั้น ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2561 และกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2541) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 (พ.ศ.2563) ระบุว่า การแต่งตั้งเจ้าคณะใหญ่ เจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ให้เป็นไปตามพระราชดำริ ซึ่ง มส.ได้มีมติเสนอรายชื่อผู้จะเป็นเจ้าอาวาสวัดสร้อยทองไปแล้ว 

ทั้งนี้ มีรายงานว่าในการประชุม มส. เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้มีมติรับรองการประชุม การเสนอแต่งตั้งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง จำนวน 5 รูป ซึ่งในจำนวนนั้นมีการเสนอรายชื่อ พระราชปัญญาสุธี ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดสร้อยทองรวมอยู่ด้วย

TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง