จากกรณีผู้เข้าร่วมงานรับปริญญาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ระบุถึง งานรับปริญญามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยพบว่ามีการตรวจบัตรประชาชนผู้มาร่วมแสดงความยินดี พร้อมระบุว่ามีการตรวจสอบข้อมูลการรักษาพยาบาลรวมทั้งโรคจิตเวชด้วย workpointTODAY สอบถามเรื่องนี้กับนายกแพทยสภา และนักวิชาการด้านกฎหมาย ชี้ การดึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่แจ้งขอความยินยอมและบอกเหตุผลเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562
พล.อ.ต.นพ.อิทธพร คณะเจริญ หรือ หมอจ๊วด เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า ในเรื่องข้อมูลส่วนตัว ประวัติการรักษาของผู้ป่วยตามหลักจรรยาบรรณแพทย์จะทราบและถือปฏิบัติว่าจะไม่สามารถนำไปเผยเผยต่อบุคคลอื่นได้ หากไม่ยินยอม ส่วนข้อมูลประวัติการรักษาจะอยู่ที่ฐานข้อมูลโรงพยาบาลต้องตรวจสอบดูว่าสถานพยาบาลเป็นผู้เปิดเผยข้อมูลนี้หรือไม่
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ระบุว่า ในกรณีที่จะขอเปิดเผยข้อมูลตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีข้อกำหนดไว้ใน มาตรา 23 ว่า ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ถึงวัตถุประสงค์ ความจำเป็น ผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล และจะต้องให้ผู้ถูกเปิดเผยข้อมูลยินยอมเสียก่อน ซึ่งต้องตรวจสอบดูว่าทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีเอกสารการชี้แจงไปยังผู้ที่จะเข้าร่วมงานก่อนหน้านี้หรือไม่ หากไม่มีอาจะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย นอกจากนี้ในการตรวจสอบบัตรประชาชนจุดตรวจจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลการประวัติการรักษาพยาบาลได้เพราะในบัตรประชาชนไม่ได้บรรจุข้อมูลนี้ไว้ เว้นแต่จะมีวิธีการเชื่อมต่อเข้าไปยังข้อมูลของสถานพยาบาล
ล่าสุด workpointTODAY พยายามติดต่อสอบถามข้อมูลนี้ไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แต่ไม่สามารถติดต่อได้










