เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) เปิดแผนธุรกิจ 5 ปี ตั้งงบลงทุน 25,000 ล้านบาท ขยายโรงงาน-คลังสินค้าทั้งในไทยและต่างประเทศ เพื่ออัปพื้นที่ใต้พอร์ตฯ สู่ 5 ล้านตร.ม.
‘พีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์’ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากปัญหาในไทยที่มีโรงงานหลายแห่งต้องปิดตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจ ปัญหาหนี้ครัวเรือนในประเทศที่ค่อนข้างสูงจนกระทบการบริโภคภายในประเทศ
และถึงแม้นักลงทุนต่างชาติจะยังคงให้ความสนใจย้ายฐานการผลิตมายังไทยอยู่ แต่ด้วยปัญหาเชิงโครงสร้างทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยยังค่อนข้างที่จะต่ำอยู่
ทำให้แผนการลงทุนใน 5 ปีข้างหน้า (ปี 2568-2572) ด้วยเงินลงทุน 25,000 ล้านบาท บริษัทได้เน้นออกไปต่อยอดขยายธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม
โดยจากแผนการลงทุนครั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าขยายพื้นที่ภายใต้การบริการจัดการสู่ 5 ล้านตารางเมตร จากปัจจุบันที่ 3.55 ตารางเมตร และหนุนมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหาร (AUM) เพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านบาท จากปัจจุบันที่ 8 หมื่นล้านบาท
ซึ่งสัดส่วนงบ 25,000 ล้านบาทที่จะใช้ลงทุนตลอดระยะเวลา 5 ปี จะถูกแบ่งออกเป็น ดังนี้
1.ลงทุนในไทยปีละ 2,500 – 3,000 ล้านบาท
2.ลงทุนในต่างประเทศปีละ 1,500 – 2,000 ล้านบาท
บริษัทคาดหวังว่าการขยายพื้นที่ครั้งนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ค่าเช่าขึ้นเป็นปีละ 7,500 ล้านบาท จากเดิมที่ปีละ 5,000 ล้านบาท
ในปัจจุบันเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ มีพื้นที่ที่จะสามารถขยายหรือพัฒนาเพิ่มได้อีกในอินโดนีเซียราวๆ 80,000-100,000 ตร.ม. ในเวียดนามไม่น้อยกว่า 200,000 ตร.ม ส่วนในไทยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตร.ม.
โดยแผนขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทจะดำเนินการภายใต้แนวคิดใน 4 มิติหลัก ได้แก่
1.Solutions : ครบครันด้วยโซลูชันสินค้าที่หลากหลาย ส่งมอบโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าคุณภาพสูง ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ
นอกจากนั้น มีแผนใช้ที่ดินภายใต้การบริหารจัดการพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าเพื่อขาย ซึ่งเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า และเป็นการขยายการดำเนินงานของบริษัทฯ เพิ่มเติมจากธุรกิจให้เช่าโรงงานและคลังสินค้า
2.Services : อัดแน่นด้วยบริการครบวงจรอย่างมืออาชีพ มีทีม Property Management ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูงในการดูแลทรัพย์สิน และทีมงานให้คำปรึกษาลูกค้าในการติดต่อกับหน่วยงานรัฐ
รวมถึงยกระดับคุณภาพโลจิสติกส์พาร์ค โดยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานโรงงานและคลังสินค้าในโครงการผ่านการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ
3.Sustainability : ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมตามแนวทางความยั่งยืน ตั้งเป้าพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าที่เป็นอาคารใหม่ พร้อมอัปเกรดอาคารเดิมให้ได้มาตรฐานอาคารเขียวระดับประเทศและสากล ทั้ง LEED, EDGE และ TREES
ควบคู่กับการใช้พลังงานสะอาดอย่างการติดตั้ง Solar Roof, EV Charger และมี Smart Metering System สำหรับตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงาน
4.Smart&Innovation : ดึงเทคโนโลยีอัจฉริยะเสริมแกร่งการดำเนินงาน พัฒนาแพลตฟอร์มที่ผสมผสานเทคโนยีสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกันสำหรับการพัฒนาโครงการ
รวมถึงการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ บริหารงานด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีแอปพลิเคชัน FlexFix ตอบโจทย์งานซ่อมบำรุงที่สามารถตอบสนองผู้เช่าได้ทันที
‘พีระพัฒน์’ กล่าวปิดท้ายว่า จากแผนการขยายโรงงานและคลังสินค้าในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า รวมถึงแนวคิดในการขับเคลื่อนองค์กร จะทำให้เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง และถึงแม้จะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาดหลายราย แต่บริษัทเชื่อมั่นว่าจะเติบโตต่อไปได้อย่างแข็งแกร่ง










