กรมราชทัณฑ์ มีมติสั่งไล่ออก-ปลดออกข้าราชการ 7 ราย พบประพฤติชั่วร้ายแรง 3 กรณี คือ เรียกรับเงินเพื่ออำนวยความสะดวกในเรือนจำ, ใช้ปืนชิงทองร้านทองในห้างสรรพสินค้า และนำทรัพย์สินของทางราชการออกไปในเวลากลางคืนไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว

นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการสามัญประจำกรมราชทัณฑ์ (อ.ก.พ.กรมราชทัณฑ์) ครั้งที่ 5/2565 วันที่ 19 ส.ค. 2565 เพื่อพิจารณาลงโทษข้าราชการที่กระทำผิดวินัย มีพฤติการณ์ที่เสื่อมเสีย ทำให้ประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์
อ.ก.พ.กรมราชทัณฑ์ มีมติลงโทษข้าราชการที่กระทำผิดวินัย 7 ราย ประกอบด้วย ไล่ออกจากราชการ 4 ราย ปลดออกจากราชการ 2 ราย และให้ออกกรณีมีมลทินมัวหมอง 1 ราย รายละเอียดโดยสรุป ดังนี้
1. กรณีขาดราชการติดต่อกันเกิน 15 วัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร (ไล่ออกจากราชการ
1 ราย และปลดออกจากราชการ 1 ราย)
2. กรณีปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ 2 กรณี โดยมีพฤติการณ์ คือ
• เรียกรับ/รับเงินจากญาติผู้ต้องขังเพื่อดูแลและอำนวยความสะดวกในเรือนจำ (ไล่ออก
จากราชการ 1 ราย)
• ถูกกล่าวหาว่าเรียกรับ/รับเงินจากญาติผู้ต้องขังเพื่อดูแลและอำนวยความสะดวก
ในเรือนจำ แต่ยังฟังได้ไม่แน่ชัด หากอยู่รับราชการต่อไปจะเกิดความเสียหาย (ให้ออก
จากราชการ กรณีมีมลทินมัวหมอง 1 ราย)
3. ประพฤติชั่วร้ายแรง 3 กรณี
• รู้เห็นกับบุคคลอื่น ติดต่อญาติผู้ต้องขัง เรียกรับเงินเพื่ออำนวยความสะดวกในเรือนจำ
(ไล่ออกจากราชการ 1 ราย)
• ใช้อาวุธปืนชิงทองร้านทองในห้างสรรพสินค้า (ไล่ออกจากราชการ 1 ราย)
• นำทรัพย์สินของทางราชการออกไปในเวลากลางคืนไปเป็นประโยชน์ส่วนตัว
แต่นำกลับมาคืน (ปลดออกจากราชการ 1 ราย)
นายอายุตม์ กล่าวว่า ได้กำชับให้ข้าราชการในสังกัดปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตในงานราชทัณฑ์ทุกมิติ ซึ่งถือเป็นนโยบายเน้นหนักสำคัญ 1 ใน 5 ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์สร้างความสมดุลระหว่างชีวิตครอบครัวและการทำงาน (Work-Life Balance) ลดภาระหนี้สิน มีความพอเพียง พอประมาณ ที่สำคัญ คือ ผู้บริหารงานเรือนจำทัณฑสถานจะต้องไม่ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตเกิดขึ้น และผู้ที่กระทำผิด หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจะถูกลงโทษขั้นเด็ดขาด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่เจ้าหน้าที่รายอื่น
พบเห็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รายใดกระทำผิด หรือเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด สามารถส่งหลักฐานโดยตรงถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผ่านทาง Website : http://protect.moj.go.th, E-mail : [email protected] หรือทางโทรศัพท์ : 02-9672222










