ผู้ว่าฯ ระยองแจงไม่ปิดหาดแม่รำพึง แต่ขอความร่วมมือให้ปิดร้านหากพบคราบน้ำมันหวั่นกระทบต่อสุขภาพ พร้อมตั้งโต๊ะลงทะเบียนเยียวยา
วันที่ 31 ม.ค. 2565 สถานการณ์ชายหาดระยองหลังน้ำมันรั่วกลางทะเล ล่าสุดอากาศยานพบคราบน้ำมันเป็นฟิล์มบางๆ กระจายตัวในทะเล บางส่วนเคลื่อนตัวไปทางแหลมแม่พิมพ์และหาดแม่รำพึง หินดำ และบางส่วนอาจไปถึงเขาแหลมหญ้า และเกาะเสม็ด เร่งโปรยสารทั้งจากทางเรือและทางอากาศ เมื่อมีคราบน้ำมันขึ้นฝั่งจะมีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เก็บคราบน้ำมัน โดยเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างกองทัพเรือ นาวิกโยธิน บริษัท SPRC และ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ซึ่งน้ำมันที่ยังค้างในทะเลหากทำปฏิกิริยากับสารขจัดคราบน้ำมันแล้ว จะย่อยสลายภายใน 8-10 วัน จะกลายเป็นคราบคาร์บอน ส่วนที่เป็นฟิล์มบางๆ บางส่วนอาจจะระเหยไป ส่วนที่ขึ้นฝั่งก็จะถูกนำไปกำจัด และจะมีการทำความสะอาดชายหาดบริเวณดังกล่าวโดยเร็ว คาดว่าอีกประมาณ 1 สัปดาห์จะเหลือคราบน้ำมันในปริมาณที่น้อยมาก
โดยสถานการณ์ในปีนี้แตกต่างจากสถานการณ์ในปี 2556 อย่างมาก ทั้งในด้านความรุนแรงของสถานการณ์คาดว่ามีปริมาณน้ำมันที่จะสร้างผลกระทบประมาณ 5% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2556 และความพร้อมในการปฏิบัติการก็มากกว่า น้ำมันส่วนที่ตกตะกอนไปในทะเล ซึ่งอาจจะไปเกาะตามปะการัง จะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ แต่ส่วนที่ได้รับผลกระทบอยู่นอกพื้นที่อุทยานหรือพื้นที่อนุรักษ์
นอกจากนี้ยังตั้งจุดเพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบยื่นเรื่องร้องเรียนได้ที่ศูนย์บัญชาการสถานการณ์กู้คราบน้ำมันรั่วไหลที่จังหวัดระยอง (หมู่บ้านสบ๊ายสบาย) ถนนเลียบชายหาดแม่รำพึง
ส่วนข่าวการสั่งปิดชายหาดแม่รำพึงนั้นเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่าทางจังหวัดไม่ได้มีคำสั่งปิดหาดแต่อย่างใด ส่วนที่ดำเนินการคือการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ และการขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงเส้นทางริมชายหาดเนื่องจากมีการปฏิบัติการทำความสะอาดชายหาด ทำให้การจราจรหนาแน่น
ส่วนร้านค้าริมชายหาด ทางจังหวัดขอความร่วมมือให้ปิดร้าน กรณีพบคราบน้ำมันเนื่องจากเกรงว่าจะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ แต่ไม่ได้มีคำสั่งให้ปิดกิจการแต่อย่างใด และได้ติดธงแดงห้ามลงเล่นน้ำหาดแม่รำพึง สำหรับหาดอื่นๆ นอกเหนือจากพื้นที่ได้รับผลกระทบในข้างต้น ยังสามารถเล่นได้ตามปกติ










