สมาคมภัตตาคารไทย แนะรัฐช่วยค่าเช่าคนละครึ่ง งดเก็บภาษี 1 ปี ลดค่าน้ำ-ไฟ 6 เดือน ขอร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกโครงการของรัฐ วอนหน่วยงานรัฐช่วยซื้ออาหารแจกหมอ-ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด
วันที่ 8 พ.ค. 2564 นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเสนอมาตรการเร่งด่วนพิจารณาช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารคือ มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าร้าน เพราะขาดรายได้จากการงดให้บริการนั่งรับประทานในร้าน เช่น ออกโครงการช่วยเหลือค่าเช่าคนละครึ่ง และช่วยเหลือประสานงานกับผู้ให้เช่า เจ้าของห้างสรรพสินค้า ให้ลดค่าเช่าอย่างน้อย 50% แล้วให้เจ้าของที่ดิน อาคาร บุคคลทั่วไป ที่ให้ร้านอาหารเช่า สามารถนำส่วนลดไปลดหย่อนภาษีในรอบบัญชีถัดไป เพื่อจูงใจให้เกิดการลดค่าเช่าตามมา
นางฐนิวรรณ กล่าวต่อว่า ขอให้งดการจัดเก็บภาษีรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา และยืดระยะเวลาในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มออกไป 6 เดือน งดจัดเก็บภาษีโรงเรือนเป็นเวลา 2 ปี ลดค่าน้ำประปา ค่าไฟไฟฟ้า 30% ตั้งแต่รอบบิลเดือนเมษายน 2564 เป็นเวลา 6 เดือน ให้เจ้าของธุรกิจร้านอาหารเข้าถึงแหล่งเงินกู้ ขอให้ประกันสังคมอนุมัติให้ลูกจ้างซึ่งถูกลดเวลาการทำงาน ลดเงินเดือน หรือหยุดงานโดยไม่รับค่าจ้าง เนื่องจากคำสั่ง ศบค. สามารถเบิกประกันสังคมได้ 50% และชะลอการจัดส่งเงินประกันสังคม ทั้งจากลูกจ้างและนายจ้างสมทบออกไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
นางฐนิวรรณ กล่าวอีกว่า สำหรับความช่วยเหลือด้านการขายและเพิ่มรายได้นั้น ให้ภัตตาคารร้านอาหารที่เป็นนิติบุคคล สามารถเข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจทุกโครงการของรัฐบาล มีมาตรการควบคุมค่าส่วนแบ่งการขาย ขอให้หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานปกครองท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ ที่มีการจัดตั้งงบประมาณในการจัดหาอาหาร เครื่องดื่ม สั่งอาหารเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ อาหารกล่องแจกแก่ประชาชนผู้ประสบภาวะวิกฤติโควิด ตกงาน ขาดรายได้ หรือให้ความร่วมมือหยุดอยู่บ้าน พร้อมทั้งขอให้รวบรวมภาคเอกชนที่ยังคงมีศักยภาพ ช่วยกันลงขันจ้างร้านอาหารในท้องถิ่นทำอาหารกล่องเพื่อให้มีเงินหมุนในระบบ รักษาสภาพการจ้างงานพนักงานในร้านอาหาร
“ร้านอาหารไม่สามารถที่จะมีสายป่านยาวเกินกว่านี้ได้อีกแล้ว ขอความชัดเจนว่า จะสามารถเปิดให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้อย่างแน่นอนหากสถานการณ์ยังรุนแรงต่อไป นายกฯ จะมีความชัดเจนในการเยียวยาพวกเราหรือไม่ เนื่องจากมาตรการที่ออกมาเยียวยาประชาชนทั้งประเทศตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2564 ไม่ได้ตรงกับสิ่งที่ร้องขอไป ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่อยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการปิดกิจการ”นางฐนิวรรณ กล่าว










