ตลาดอสังหาฯ ในปี 2564 ที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ข้อมูลจาก DDProperty ได้สรุปเทรนด์อสังหาฯ ในรอบปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตและส่งผลต่อการอยู่อาศัยด้วย พร้อมการเข้ามาของเทคโนโลยี ด้านผู้ประกอบการอสังหาฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันมากขึ้น
ทั้งนี้เทรนด์การพัฒนาอสังหาฯ ในปัจจุบัน หลักๆ แล้วจะเน้นไปที่ไลฟ์สไตล์ดิจิทัล (Digital Lifestyle Integration) ผ่านแนวคิดบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) ปรากฏให้เห็นในโครงการต่างๆ มากยิ่งขึ้น จนแทบจะกลายเป็นฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานที่ที่อยู่อาศัยยุคใหม่ต้องมี
นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้าน ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบายยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความอุ่นใจในความปลอดภัย สามารถเปิดหรือปิดการใช้งานระบบไฟฟ้าได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
7 เทรนด์ อสังหาฯ แรงมาแห่งปี
1.) การอยู่อาศัยแบบยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคนี้ มักมองหาบ้านที่มาพร้อมฟังก์ชั่นประหยัดพลังงานและรักษ์โลก ข้อมูลจากผลสำรวจ DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study รอบล่าสุด เผยว่า คนไทยกว่า 9 ใน 10 (93%) ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยแบบยั่งยืน
โดยมากกว่าครึ่ง ต้องการบ้านหรือคอนโดฯ ที่มีระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Rooftop) เพื่อสร้างพลังงานทางเลือกทดแทนการใช้ไฟฟ้า ตามมาด้วยบ้านที่มีระบบระบายความร้อน และฟังก์ชั่นดูดซับมลพิษภายในบ้าน นอกจากนี้หลายโครงการยังได้เพิ่มจุดบริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในพื้นที่ส่วนกลาง รองรับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังมาแรง
2.) บ้านเพื่อผู้สูงอายุ ตอบโจทย์ทุกช่วงวัย โดยประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้วในปีนี้ โดยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ถึง 20% ของประชากรทั้งหมด หลายโครงการที่อยู่อาศัยมีการออกแบบและนำเสนอนวัตกรรมการสร้างบ้านสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
เช่น การเพิ่มราวจับในพื้นที่ต่างระดับ การเลือกประตูที่มีขนาดใหญ่สำหรับรถเข็น และสร้างทางลาดให้รถเข็นเข้า-ออกในบ้านได้ง่ายขึ้น ซึ่งรายละเอียดการออกแบบต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุเท่านั้น หากแต่เป็นหลักการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยและรองรับการใช้ชีวิตของทุกช่วงวัยได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังมีโครงการอสังหาฯ หลายแห่งที่ร่วมมือกับโรงพยาบาลหรือศูนย์บริการสุขภาพในการเพิ่มบริการดูแลสุขภาพไว้รองรับ ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ
3.) ที่อยู่อาศัย Pet Friendly สำหรับคนรักสัตว์ โดยเทรนด์สัตว์เลี้ยงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภมากขึ้น แต่ในอดีตคอนโดฯ ส่วนใหญ่มักไม่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดเสียงดังรบกวน หรือมีปัญหาเรื่องความสะอาด
แต่ในปีที่ผ่านมา ผู้พัฒนาอสังหาฯ หลายบริษัทมองเห็นโอกาสและหันมาเจาะกลุ่มคนรักสัตว์มากขึ้น โดยเปิดตัวโครงการคอนโดฯ ที่อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ (Pet Friendly) พร้อมทั้งมีพื้นที่ส่วนกลางที่ให้เจ้าของและสัตว์เลี้ยงได้ทำกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย
4.) เทรนด์เช่ามาแรง ลดภาระค่าครองชีพ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัวและการแพร่ระบาดฯ ที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยออกไปก่อน และวางแผนการเงินอย่างรัดกุม เลือกเก็บเงินสดไว้กับตัว ส่งผลให้เทรนด์การเช่าที่อยู่อาศัยกลับมาได้รับความนิยม
เพราะไม่ต้องจ่ายภาษีและดอกเบี้ยเมื่อตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางและไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่ครอบคลุมเพียงพอ การเช่าที่อยู่อาศัยจะช่วยให้กลุ่มคนรุ่นใหม่สามารถเลือกเช่าที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงานได้ในราคาที่เอื้อมถึง โดยไม่มีภาระผูกมัดระยะยาว
5.) สร้างบรรยากาศแบบ Holiday at Home การใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เกิดเทรนด์การออกแบบที่อยู่อาศัยที่ให้ความรู้สึกของการพักผ่อนที่เหมือนได้ท่องเที่ยวพักผ่อนในต่างจังหวัด ผ่านการตกแต่ง การจัดสวนให้มีมุมพักผ่อนที่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ
รองรับสมาชิกในครอบครัว สามารถทำงานหรือเรียนออนไลน์ในบรรยากาศที่แปลกใหม่ หนีจากความจำเจเมื่อต้องอยู่ที่บ้านเป็นระยะเวลานาน ตอบโจทย์การออกแบบที่อยู่อาศัยให้ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ตามไลฟ์สไตล์ของคนในครอบครัว
6.) สกุลเงินดิจิทัลกับโอกาสเป็นเจ้าของอสังหาฯ โดยกระแสของสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ในไทยน่าจับตาและมีบทบาทมากขึ้นในภาคอสังหาฯ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยให้ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ ยังมีการประกาศให้ใช้สกุลเงินดิจิทัลในการซื้ออสังหาฯ หรือจ่ายค่าส่วนกลางและค่าบริการอื่น ๆ ในบางโครงการแล้ว ในอนาคต มีความเป็นไปได้ว่าเทรนด์สกุลเงินดิจิทัลจะสามารถกลายเป็นอีกช่องทางหลักของการซื้อขายในตลาดอสังหาฯ
7.) Metaverse ยกระดับประสบการณ์ที่อยู่อาศัยบนโลกเสมือน เป็นเทรนด์มาแรงที่สั่นสะเทือนทุกธุรกิจส่งท้ายปี โดยผู้บริโภคสามารถเป็นเจ้าของโครงการในโลกเสมือนได้ผ่านการเชื่อมโยงของ Metaverse และยังสามารถใช้เทคโนโลยีนี้เยี่ยมชมที่อยู่อาศัยก่อนตัดสินใจซื้อแบบ Virtual Tour ได้
พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจในการเปิดพื้นที่ใน Metaverse ให้สามารถซื้อขายที่ดินเพื่อพัฒนาห้างสรรพสินค้าและโครงการอสังหาฯ ต่าง ๆ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตแบบไร้รอยต่อระหว่างโลกจริงและโลกเสมือนให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้คือเทรนด์อสังหาฯ ส่งท้ายปี ส่วนปีหน้า 2565 จะมีเทรนด์อะไรใหม่ๆ น่าสนใจบ้าง ต้องติดตามกันต่อไป










