โรม จี้นายกฯ เร่งสอบ พม.ปมค้าประเวณี หวั่นตรวจสอบกันเองอาจไม่โปร่งใส
วันที่ 8 พ.ค. 2565 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวจากกรณีตำรวจเข้าจับกุมผู้ต้องหาซื้อบริการทางเพศเยาวชนหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ในพื้นที่อำเภอเมือง และอำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกทั้งมีการแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และรองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวง พม. ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมจับตามองว่าจะเป็นการช่วยเหลือพวกพ้องหรือไม่
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า คนระดับรองอธิบดี ตำแหน่งระดับนี้ มีสถานะในราชการที่สูง คำถามที่สำคัญคือว่า ทำไมคนระดับรองอธิบดี ที่มีตำแหน่งสูงขนาดนี้ถึงเข้าไปเกี่ยวข้องมีคนให้ท้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวต่อว่า การที่รองอธิบดีเข้าไปเกี่ยวข้อง ตนคิดว่าสังคมต้องการคำตอบว่าทำไมถึงปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ และกล่าวถึงนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม.ว่าดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2562 และเคยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน ควรจะรู้ว่าคนที่ทำงานกับท่านเป็นอย่างไร
โดยนายรังสิมันต์ ได้ตั้งข้อสงสัย 2 ข้อ คือ 1.นี่คือการช่วยกันหรือไม่ เป็นการทำอย่างเป็นขบวนการเป็นระบบ เพื่อช่วยให้ผู้กระทำความผิดได้รับความช่วยเหลือให้รอดพ้นจากกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ พร้อมตั้งคำถามว่าคนระดับรองอธิบดี ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ให้ท้าย จะกล้าทำขนาดนี้จริงๆ หรือ
ข้อ 2. สิ่งที่เกิดขึ้น คือคนที่เป็นลูกอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กระทำการผิดกฎหมายในพื้นที่ที่พรรคประชาธิปัตย์ครองอยู่ และคนที่มาช่วยเคลียร์คดีนี้ คือคนที่อยู่ในกระทรวงที่พรรคประชาธิปัตย์ครองอยู่ และรัฐมนตรีกำลังสอบสวนขยายผลเรื่องนี้ เป็นรัฐมนตรีที่อยู่ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ และเคยเป็นเลขาของพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นเวลานาน
ตนเองในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกลไม่มั่นใจต่อกระบวนการตรวจสอบและขอใช้โอกาสนี้ เรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีให้เร่งตรวจสอบ เพราะเป็นห่วงว่าถ้าไม่เร่งดำเนินการเรื่องนี้สุดท้ายจะจับใครไม่ได้เลย จะจับได้แค่ปลาตัวเล็กเหมือนที่เคยเป็นมา
พร้อมเรียกร้องว่านายกรัฐมนตรีควรมีมาตรการออกมาตรวจสองรัฐมนตรีจุติ ไกรฤกษ์ ด้วย เรื่องแบบนี้ เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถ้าเป็นประเทศอื่น รัฐมนตรีต้องมีความรับผิดชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง ทางการเมืองไปแล้ว ดังนั้นขอให้นายกรัฐมนตรีอย่างห่วงเสถียรภาพของรัฐบาลจนลืมความถูกต้อง อย่าไปกังวลว่า ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงหรือมีการตั้งกรรมการสอบสวนต่อรัฐมนตรีจุติ แล้วจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อีกต่อไป
นายรังสิมันต์ ตอบคำถามถึงกรณีที่ กระทรวง พม. ตั้งคณะกรรมการสอบโดยปลัดว่าต้องยอมรับว่าการสอบภายในเป็นเรื่องที่ควรทำ แต่สิ่งที่กังวลคือ การสอบเรื่องนี้จะเป็นการสอบแบบคนกันเองหรือไม่ ตนไม่มั่นใจว่าจะได้การสอบสวนที่โปร่งใสเป็นธรรมต่อเหยื่อ
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า จะติดตามว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน ลำพังปัญหาก่อนหน้านี้ก็เลือกไม่ถูกแล้วว่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีคนใดบ้าง ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นพรรคก้าวไกลให้ความสำคัญกับเนื้อหา สาระ หลักฐาน เราทำอย่างเต็มที่ และการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วงใจ ครั้งสุดท้าย ก่อนมีการเลือกตั้ง
