“อนุพงษ์” ยกเหตุ “อส.ปิดม่านชก” ย้ำผู้ว่าฯ ต้องยึดกฎหมายไม่ใช่วิจารณญาณ

วันที่ 29 ส.ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวระหว่างมอบนโยบายแก่ผู้บริหารและผู้ว่าราชการจังหวัดผ่านระบบประชุมทางไกล ถึงเรื่องการทำงานโดยยึดหลักธรรมาภิบาล ซึ่งในข้อหลักนิติธรรมได้ยกตัวอย่างกรณี อาสารักษาดินแดน (อส.)ที่ได้รับบาดเจ็บจากการร่วมปฏิบัติงานกับตำรวจ ที่จ.ชลบุรี ว่า

ตนทราบว่าคนที่ไปทำงาน เขาทำงานด้วยความตั้งใจ เขาไปทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ด่าน ลองนึกภาพดีๆ มีมอเตอร์ไซค์ขับด้วยความเร็วแล้วพุ่งเข้ามาหา ลองนึกเทียบกับตัวเองว่า ถ้าเป็นตัวเองจะเอาตัวเข้าไปเสี่ยงไหม แต่คนที่ทำงานเขาเข้าไปขวาง แสดงว่าเขาตั้งใจทำงาน

“แล้วก็เกิดจริงๆ ผมดู ติดตามอาการ ไม่ใช่เบานะครับ เพราะหัวกระแทก ทุกคนทราบดีว่า สมองมีผลกับตัวเขาและครอบครัวเขามาก ผมไม่ได้พูดว่าผมเข้าใจใจเขานะ แต่ผมเข้าใจว่าเขาทำงานอย่างไร มาถึงเมื่อเกิดเหตุขึ้นผู้ที่ร่วมงาน ก็เกิดพฤติกรรมอย่างที่ท่านทราบแล้ว ไปใช้กำลังกับคนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้”

พล.อ.อนุพงษ์ กำล่าวต่อว่า ท่านเป็นข้าราชการของรัฐ ท่านต้องยึดหลักธรรมาภิบาลให้ดี แม้แต่ข้อหนึ่งท่านก็ฝ่าไม่ได้ สังคมไทยไม่ได้ให้หรือสังคมโลกไม่ได้ให้ท่านทำตามวิจารณญาณ ตามความรู้สึกได้เลย เขาไม่ให้ท่านทำ เขาไม่ให้เด็ดขาด ตนเคยเห็นแม้แต่คนทำตามหลักนิติธรรมแล้วก็มีปัญหาได้

เอาว่าขั้นแรก ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ท่านเป็นผู้ทำงานในพื้นที่ ท่านทำงานร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชาหน่วยงานอื่น ท่านต้องยึดหลักนี้ ใช้วิจารณญาณส่วนตัวไม่ได้เลย ท่านผู้ว่าฯ ต้องคอยพูดให้ผู้ใต้บังคับบัญชาอยู่บนหลักนี้ให้ได้ ไม่งั้นท่านจะมีปัญหา

“ไม่ใช่ออกอย่างเดียวนะครับ อาจจะมีโทษนะครับ ถ้าเขาแจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษ เพราะทำร้ายร่างกาย ครอบครัวตัวเองก็ได้รับผลกระทบ การใช้ความรู้สึกไปว่าทำไมคนนี้มาทำให้คนนี้ต้องเจ็บ ไม่ได้ ทำได้ตามกฎหมายเท่านั้น บ้านเมืองเดินผิดจากเส้นนี้ไม่ได้ ถ้าผิดจากเส้นนี้ใครตัวใหญ่ได้เปรียบ เพราะจะใช้กำลังกัน”