รมว.ต่างประเทศของรัสเซียพร้อมจะนำเทคโนโลยีจากจีนเข้ามา หลังที่ผ่านมาแผน 5G ต้องล่าช้าลงจากการเมืองในประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียออกมายืนยันถึงความพร้อมในการร่วมมือกับจีนและหัวเว่ย (Huawei) ภายใต้แผนวางระบบ 5G ของรัฐบาลมอสโก
ที่ผ่านมาการวางระบบ 5G ในรัสเซียเป็นไปด้วยความยากลำบาก สถาบันวิจัยนโยบายด้านการต่างประเทศ (Foreign Policy Research Institute) ของสหรัฐฯ มีการทำรายงานเรื่องนี้ โดยระบุว่า 3 ปัจจัยหลักที่ทำให้รัสเซียวางแผนระบบโทรคมนาคมได้ล่าช้าคือ
1. มีการนำคลื่นความถี่ 3.4-3.8 GHz จำนวนมากไปใช้ในกองทัพและหน่วยสืบราชการลับ
2. สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมมีแนวคิดให้รัฐเป็นเจ้าของอุปกรณ์ส่งสัญญาณ จากนั้นผู้ให้บริการเครือข่ายเอกชนเข้ามาใช้งานร่วมกัน แต่ทางผู้ให้บริการเครือข่ายบางรายไม่เห็นด้วย เนื่องจากกลัวว่าจะสูญเสียตำแหน่งผู้นำในตลาด รวมถึงกลัวว่าจะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ
3. มีการวิ่งเต้นเพื่อนำเสนอแผนให้รัสเซียผลิตอุปกรณ์เพื่อวางระบบ 5G ขึ้นมาเอง และกีดกันการนำเข้าอุปกรณ์จากบริษัทต่างชาติ หรืออาจจะมีการเอื้อประโยชน์ให้หัวเว่ยซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติจีน มากกว่าโนเกียและอีริคสันจากฝั่งยุโรป
ในรายงานได้เปรียบเทียบการดึงกันไปมาระหว่างรัฐและเอกชนว่าเป็นเหมือนการชักเย่อ ทำให้แผนที่ควรจะเสร็จสิ้นตั้งแต่ปลายปี 2018 ปัจจุบันยังหาข้อสรุปไม่ได้
การออกมาแสดงความชัดเจนของรมว.ต่างประเทศในครั้งนี้จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รัสเซียมีความคืบหน้าในการวางระบบ 5G แม้ว่าหลายประเทศยังมีความแคลงใจในประเด็นเรื่องความปลอดภัยของอุปกรณ์หัวเว่ยก็ตาม










