กลับมาอีกครั้งกับงานช้อปสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 27” โดยเริ่มจัดวันแรกในวันที่ 29 มิถุนายน 2566 และจะจัดยาว 4 วันไปถึง 2 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 – 21.00 น. ที่ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา
โดยยกทัพคาราวานของกินของใช้มาให้เลือกซื้อในราคาประหยัด เปิดตัวนวัตกรรม และจัดกิจกรรมพิเศษมากมาย พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการช้อปใหม่ ด้วยการเชิญอินฟลูเอนเซอร์ ไทย จีน เวียดนาม มาเลเซีย มาไลฟ์รีวิวสินค้า เปิดโอกาสให้คนที่อยู่ต่างจังหวัด และต่างประเทศ ช้อปได้ง่ายขึ้น
นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ กล่าวว่า สหกรุ๊ปแฟร์จัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุน และแสดงศักยภาพของเครือสหพัฒน์ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบครัน อีกทั้งยังต้องการให้งานนี้เป็นการจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ เพื่อลดค่าครองชีพให้ประชาชนอีกด้วย
งานสหกรุ๊ปแฟร์ครั้งแรกจัดเมื่อปี 2540 และจัดต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ปีนี้เป็นปีที่ 27 จัดขึ้นภายใต้ธีม ศึกเจ้านักช้อป โดยแบ่งพื้นที่จัดงานออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่
ส่วนแรก จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ จัดขึ้นที่ฮอลล์ 98-99 โดยสินค้าที่นำมาจำหน่ายราคาพิเศษในปีนี้มีจำนวน 17 หมวดสินค้า รวมกว่า 1,000 คูหา 100 บริษัท ซึ่งแต่ละแบรนด์ได้จัดโปรโมชั่นมาเป็นพิเศษ
ส่วนที่สอง พื้นที่แสดงสินค้านวัตกรรม จัดขึ้นที่ฮอลล์ 100 แต่ละบริษัทจะจัดทำนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมา เพื่อแสดงบริเวณฮอลล์นี้ นอกจากนี้ยังสินค้าและบริการจากพันธมิตรเครือสหรพัฒน์มาจัดแสดงด้วย โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มธุรกิจพลังงาน กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาล สินค้าญี่ปุ่น กลุ่มธุรกิจการศึกษา กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ และกลุ่มธุรกิจบริการ
พื้นที่ส่วนที่สาม จัดกิจกรรมพิเศษที่เวทีกลาง ห้องกิจกรรมชั้นสอง และเวทีย่อย
ความพิเศษในปีนี้คือ จะมีอินฟลูเอนเซอร์ ไทย จีน เวียดนาม มาเลเซีย มาไลฟ์สดรีวิวสินค้าให้ผู้ชมได้สั่งซื้อสินค้าที่ต้องการได้ทันที ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรูปแบบหนึ่งที่ทำขึ้นเพื่อรองรับคนรุ่นใหม่
โดยอินฟลูเอนเซอร์ชาวไทยมีกว่า 150 คน ส่วนอินฟลูเอนเซอร์ต่างชาติจะร่วมกับ SHOP CHANNEL ในการไลฟ์สด และแต่ละแบรนด์ยังเปิดจำหน่ายออนไลน์ผ่านอีคอมเมิร์ซในเครือสหพัฒน์
สำหรับ พื้นที่จัดกิจกรรมพิเศษ จัดที่เวทีกลาง ห้องกิจกรรมชั้น 2 และเวทีย่อย จะมีการจัดสัมมนา และเวิร์กชอปให้ความรู้ ทั้งเรื่องการสร้างรายได้จาก TikTok ความรู้เกี่ยวกับ AI และ เทคโนโลยี CDP รวมทั้งแฟชั่นโชว์วาโก้ การประกวดต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังมีการเซ็นสัญญาร่วมทุน โดยจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างเครือสหพัฒน์กับพันธมิตรรวม 9 โครงการ และครั้งแรกกับการจัดงานแบบ Pet-Friendly ที่เปิดให้นำสัตว์เลี้ยงมาร่วมงานได้
“เราอยากจะเป็นธุรกิจที่แก้ปัญหาค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน อยากให้ลูกค้าได้รู้จักเรามากขึ้นผ่านงานนี้ ในแง่ของกำลังซื้อ ประเมินว่าน่าจะดีกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากสถานการณ์หลายอย่างดีขึ้นกว่าปีที่แล้วมาก ถ้าพี่น้องประชาชนมาเที่ยวงานเยอะขึ้น ภาพรวมการจับจ่ายก็น่าจะดีกว่าปีที่แล้ว” นายธรรมรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
