มาถึงยุค ขายบ้านผ่านการ์ตูน ทำไม ‘แสนสิริ’ ต้องจับมือ ‘ขายหัวเราะ’

มาถึงยุค ขายบ้านผ่านการ์ตูน ทำไม ‘แสนสิริ’ ต้องจับมือ ‘ขายหัวเราะ’

ปกติเวลาพูดถึงการทำการตลาดของแบรนด์บ้าน-คอนโดฯ ในไทย ส่วนใหญ่เรามักนึกถึงการทำโปรโมชั่นหนักๆ ดึงดูดลูกค้า หรือใช้อินฟลูเอนเซอร์รีวิวโครงการ

แต่ล่าสุด ดูเหมือนว่า ‘แสนสิริ’ จะฉีกแนวการทำการตลาดแบบเดิมๆ และสร้างมิติใหม่ให้กับวงการ ด้วยการไปร่วมกับ ‘ขายหัวเราะ’ ทำแคมเปญการตลาดร่วมกัน

แคมเปญที่ว่ามีชื่อว่า “บ้านนี้ ฮะ ฮะ ฮ่า” ที่แสนสิริบอกว่าทำขึ้นมาเพื่อให้คนไทยมีบ้านได้ง่ายขึ้น เพื่อรุกตลาดอสังหาฯ ในไตรมาส 2

ถามว่าการสร้างแคมเปญร่วมกันที่ว่านั้นทำอะไรบ้าง

-ออกหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ฉบับพิเศษ แจกตามสี่แยกไฟแดง สร้างกิมมิกใหม่ดึงความสนใจผู้คน

-ทำวิดีโอที่นำตัวการ์ตูนของขายหัวเราะมาเล่าเรื่องราวของแสนสิริ

-สร้างตัวการ์ตูน ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ซีอีโอแสนสิริ เข้ามามีส่วนร่วมในบางช่วงบางตอน

-มี art installation ที่ไปวางตามโครงการ

ซึ่งวันนี้ TODAY Bizview มีโอกาสได้ดูคลิปแรกที่เป็นการคอลแล็บกันของทั้งคู่

วิดีโอที่ว่าใช้วิธีนำตัวการ์ตูนของขายหัวเราะ ไม่ว่าจะเป็น บ.ก.วิติ๊ด, ปังปอนด์, หนูหิ่น ฯลฯ มาเล่าเรื่องราวการช่วยเหลือสังคมของแสนสิริตลอดที่ผ่านมา

เช่น การสนับสนุนให้พนักงานและครอบครัวได้ฉีดวัคซีนโควิด, การสนับสนุนเกษตรกรและ SME, การสนับสนุนให้เด็กไทยได้เรียนหนังสือ, การเพิ่มพื้นที่สีเขียวกลางกรุงกับโครงการ Sansiri Backyard, การส่งเสริมให้ลูกบ้านแยกขยะ เป็นต้น

เรื่องราวทั้งหมดก็เพื่อตอกย้ำว่า “แสนสิริไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

วิดีโอยังให้ตัวการ์ตูนแต่ละตัวถ่ายทอดว่า โครงการอสังหาฯ ของแสนสิรินั้นตอบโจทย์ความต้องการของตัวการ์ตูน (ซึ่งเป็นตัวแทนของคนหลากหลายกลุ่ม) อย่างไรบ้าง

ถามว่าทำไมแสนสิริถึงเลือกสร้างแคมเปญกับขายหัวเราะ?

แสนสิริให้เหตุผลว่า แสนสิริเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ทำงานร่วมกับพันธมิตรอยู่แล้ว

ซึ่งย้อนไปปีที่แล้ว แสนสิริก็จับมือกับบาร์บีคิว พลาซ่า ทำแคมเปญร่วมกัน และด้วยความที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แสนสิริกวาดยอดขายทะลุเป้ากว่า 7,000 ล้านบาท เลยต่อยอดมาสู่การผนึกพันธมิตรอีกครั้งในปีนี้

และที่ต้องเป็น “ขายหัวเราะ” เพราะแสนสิริมองว่าขายหัวเราะมีตัวการ์ตูนคาแร็กเตอร์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกกลุ่มคน

ท้ายที่สุดก็คือจะพาแสนสิริไปหากลุ่มลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มมากขึ้นนั่นเอง

ที่สำคัญคือเป็นการสร้างมุมมองใหม่ต่อผู้บริโภค

เพราะหลายครั้ง คนมองว่าแสนสิริเป็นแบรนด์หรู บ้าน-คอนโดฯ ราคาแพง

แต่แสนสิริบอกว่า จริงๆ แล้วโครงการของแสนสิริมีตั้งแต่เริ่มต้นที่ 1.39 ล้านบาท

การนำแบรนด์ขายหัวเราะที่เข้าถึงคนไทยทุกกลุ่มมาช่วยสื่อสาร

ก็จะช่วยสื่อสารได้ว่า จริงๆ แล้วแสนสิริเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงได้ไม่ยากขนาดนั้นนั่นเอง

แคมเปญ “บ้านนี้ ฮะ ฮะ ฮ่า” ยังมาพร้อมกับโปรโมชั่น ดอกเบี้ยต่ำที่สุด 2.2% นาน 3 ปี ลุ้นรับทองคำหนัก 10 บาท และส่วนลดเงินคืน 300,000 บาท โดยโปรโมชั่นนี้จะอยู่ถึงวันที่ 31 ก.ค. 2565

แต่หลังจากนั้นก็จะยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ร่วมกับขายหัวเราะอีกยาวไปทั้งปีนี้

ทั้งหมดทั้งมวล แสนสิริตั้งเป้าว่าจะกวาดยอดขายจากแคมเปญนี้ได้ถึง 8,200 ล้านบาท และดันให้ยอดขายรวมทั้งปีให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ที่ 35,000 ล้านบาทได้

KanokwanWriterKanokwan
Business Journalist อดีตผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจออนไลน์ และ Forbes Thailand Online
สนใจเรื่องความเคลื่อนไหวของแบรนด์ เทคโนโลยี โลกอนาคต ชีวิตการทำงาน ความเหลื่อมล้ำ และความเป็นอยู่ของผู้คน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง