
นครเซาเปาโล เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศบราซิล ออกกฎหมายใหม่ห้ามโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ ใช้ภาชนะต่างๆที่ทำจากพลาสติกให้บริการลูกค้า ให้เวลาธุรกิจปรับตัว 1 ปี หากฝ่าฝืนอาจถูกปรับและหากฝ่าฝืนซ้ำอีกอาจปิดกิจการ
วันที่ 15 ม.ค. 2563 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 63 ที่ผ่านมา นครเซาเปาโล เมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศบราซิลประกาศสงครามกับ “พลาสติก” ออกกฎหมายใหม่ห้ามโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจอื่นๆ ให้บริการภาชนะและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ทำจากพลาสติกกับลูกค้า บรูโน โกวัส (Bruno Covas) เทศมนตรีเมืองเซาเปาโลประกาศบังคับใช้กฎหมายใหม่เพื่อลดปริมาณการใช้พลาสติกใช้แล้วทิ้ง อาทิ แก้ว จาน และแท่งสำหรับคนส่วนผสม โดยกำหนดให้เปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ที่สามารถย่อยสลายหรือสามารถใช้ซ้ำได้แทน
ระหว่างลงนามอนุมัติกฎหมาย บรูโน โกวัส กล่าวว่า นี่เป็นพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมที่เราต้องทำเพื่อคนรุ่นหลัง หยุดผลิตพลาสติก และเปลี่ยนมาดำเนินชีวิตที่เป็นมิตรต่อโลกยิ่งขึ้น กลุ่มธุรกิจต่างๆ มีเวลาจนถึงมกราคม 2021 ในการปรับเปลี่ยนและปฏิบัติตามกฎหมายใหม่ โทษปรับของผู้ฝ่าฝืนอยู่ที่ 1,000-8,000 เรอัลบราซิล ประมาณ 7,300-58,000 บาท และหากฝ่าฝืนซ้ำอาจถูกสั่งปิดกิจการ
เราเชื่อว่าผู้คนจะเสียสละความสะดวกสบายส่วนตัว เพราะพวกเขาเข้าใจว่าเรากำลังปฏิบัติตามพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อม กฎหมายข้อนี้ระงับการใช้พลาสติกหลากหลายประเภท ตั้งแต่ภาชนะพลาสติกตามรถเข็นขายอาหารและเครื่องดื่มไปจนถึงก้านลูกโป่ง
เซลโซ กอสตา (Celso Costa) เจ้าของบาร์แห่งหนึ่งให้สัมภาษณ์กับซินหัวว่า เห็นด้วยกับการบังคับใช้กฎใหม่นี้ แต่ก็กังวลกับต้นทุนของผลิตภัณฑ์ทดแทนพลาสติกใช้แล้วทิ้ง เราต้องศึกษาราคาของผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาใช้ทดแทน แต่เซลโซ กอสตา คิดว่ามันเป็นมาตรการที่ดี การงดใช้พลาสติกก็เหมือนกับทุกๆ เรื่อง มันเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของเรา ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลา
อนึ่ง ทางการเซาเปาโลระบุว่าขยะพลาสติกมีสัดส่วนมากกว่าร้อยละ16 ของขยะทั้งหมด และประชาชนในเมืองเซาเปาโลผลิตขยะพลาสติกราว 635,000 ตันต่อปี









