หากพูดถึง SAPPE หรือ บมจ.เซ็ปเป้ หลายคนอาจคุ้นเคยกันดีว่านี่คือบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่มีโปรดักต์เด่นๆ ได้แก่ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์, กาแฟเพรียว, เครื่องดื่มน้ำผสมวิตามิน B’lue รวมถึงน้ำมะพร้าว All Coco เป็นต้น
แต่ล่าสุดดูเหมือนว่า ‘เซ็ปเป้’ จะไม่ได้จำกัดตัวเองว่าเป็นบริษัทเครื่องดื่มและอาหารอีกต่อไป หลังเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ซึ่งเป็น ‘อาหารเสริม’ จากสมุนไพรจีน จากการจับมือร่วมกันกับ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
[ ถามว่าทำไมถึงต้องเป็น ‘อาหารเสริม’ ? ]
‘ปิยจิต รักอริยะพงศ์’ ซีอีโอเซ็ปเป้ บอกว่าตลาดอาหารเสริมในระดับโลกมีมูลค่าราว 1.6 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีการประเมินว่าอีก 7 ปีจะเติบโตถึง 8% ต่อปี
ขณะที่ตลาดในประเทศไทยมีมูลค่าถึง 75,000 ล้านบาท ที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ย 5-8% ต่อปี เนื่องจากผู้คนให้ความสนใจกับการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีโควิดระบาด คนก็เริ่มสนใจการป้องกันตัวเองไม่ให้เกิดโรคมากขึ้น ซึ่งอาหารเสริมก็เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การป้องกัน
เทรนด์การเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารเสริมที่น่าสนใจ ทำให้ ‘เซ็ปเป้’ ขอกระโดดเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้ด้วย เพื่อเสริมพอร์ตตัวเองให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
และที่เลือกอาหารเสริมจาก ‘สมุนไพรจีน’ ก็มีเหตุผลหลายๆ ประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
-ต่างประเทศนิยมส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติมากขึ้น
-สมุนไพรก็มาจากธรรมชาติ และปัจจุบันได้รับความสนใจมากขึ้น เช่น โสม กระเทียม ขมิ้น
-ศาสตร์แพทย์แผนจีน มีมานานกว่าพันปี พิสูจน์ผ่านการเวลาว่าช่วยรักษาและบำรุงร่างกาย
และถ้าพูดถึงศาสตร์แพทย์แผนจีนในไทย ชื่อของ ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ น่าจะเป็นชื่อแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ทำให้เกิดความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้นนั่นเอง
โดยความร่วมมือดังกล่าวเป็นในรูปแบบ Licensing ที่มี ม.หัวเฉียวฯ เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาโปรดักต์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขององค์การอาหารและยาอย่างถูกต้อง และมีการจดอนุสิทธิบัตร

โดย ม.หัวเฉียวฯ เป็นผู้ถือสิทธิชนิดสมุนไพรที่ใช้ในสูตร ขณะที่เซ็ปเป้เป็นผู้ถือสิทธิอนุสิทธิบัตรรายการสูตรตำรับของสินค้า และทำหน้าที่ในการทำการตลาด
สำหรับโปรดักต์ดังกล่าวมาในแแบรนด์ “เซ็ปเป้ อินหยาง เอ็กซ์ หัวเฉียว” ภายใต้คอนเซ็ปต์ศาสตร์แพทย์แผนจีนโบราณสู่ยุคใหม่ มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ ช่วยปรับสมดุลหยิน-หยาง เพื่อสร้างสุขภาพที่ดี โดยมาในรูปแบบเม็ดบรรจุซองพร้อมทานสำหรับหนึ่งวัน ทานง่าย พกพาสะดวก
โดยปัจจุบันมี 2 สูตรด้วยกันคือ
-สูตรสดชื่น (กล่องแดง) คิดค้นมาเพื่อบำรุงกำลัง เติมความสดชื่นในการทำงานและใช้ชีวิตได้เต็มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนนอนดึก ทำงานหนัก และพักผ่อนน้อย จำหน่ายราคากล่องละ 1,200 บาท
-สูตรใจสงบ (กล่องน้ำเงิน) ช่วยปรับอารมณ์ ลดความเครียด ทำให้นอนหลับได้ง่ายและสบายขึ้น สูตรนี้เหมาะกับคนคิดมาก หรือมีอาการนอนหลับยาก จำหน่ายราคากล่องละ 1,600 บาท

ทั้ง 2 สูตร เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ ไร้สารสเตียรอยด์ ไม่มีสารตกค้าง โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของผลิตภัณฑ์ มุ่งเน้นกลุ่ม Silver Age (รุ่นใหญ่ วัยมั่งคั่ง) และคนวัยทำงานที่ให้ความสำคัญด้านสุขภาพ เพราะปัจจุบันคนในวัยดังกล่าว มีพลังในการใช้ชีวิตอยู่มาก จึงมองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อตอบโจทย์ให้พร้อมใช้ชีวิตในทุกวัน
[ คาด 5 ปีรายได้จากอาหารเสริม 500 ล้าน ]
สำหรับแนวทางการตลาด เซ็ปเป้จะวางขายในช่องทางออนไลน์ และร้านขายยา ซึ่งต้องอาศัยเภสัชกรหรือพีซีในการช่วยแนะนำสินค้า โดยเซ็ปเป้ตั้งเป้ายอดขายสินค้ากลุ่มอาหารเสริมใน 5 ปีข้างหน้าไว้ที่ 500 ล้านบาท แต่อาจจะไม่ได้มีแบรนด์นี้แบรนด์เดียว
ขณะที่เป้าหมายของเซ็ปเป้ในอีก 4 ปีข้างหน้าคือรายได้ 10,000 ล้านบาท (เติบโตเฉลี่ยปีละ 22%) อาหารเสริมก็จะครองสัดส่วนรายได้ราว 5%
ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่การครอสแบรนด์ครั้งแรกของเซ็ปเป้ โดยก่อนหน้านี้เซ็ปเป้เคยทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นเพื่อออกสินค้าใหม่ด้วยกันมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกับ ‘เวิร์คพอยท์’ ที่ออกลูกอมครูเพ็ญศรี และการร่วมกับแบรนด์ ‘ตะขาบ’ ออกยาน้ำชุ่มคอ
‘ปิยจิต’ บอกว่า สำหรับการออกโปรดักต์ใหม่หรือการครอสแบรนด์ บางโปรดักต์ก็เป็นการกระตุ้นตลาดเท่านั้น แต่บางโปรดักต์ก็หวังว่ามันจะเป็น New S-Curve ของรายได้ และอาหารเสริมก็เป็นหนึ่งในนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:










