ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 2 รายแรกในไทย หลังเดินทางกลับจากปากีสถาน รับกังวลเชื้อกลายพันธุ์ กำชับกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์เฝ้าระวังสูงสุดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

วันที่ 10 พ.ค. 2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 649,140 ราย ยอดสะสม 158,963,126 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 10,206 ราย ยอดสะสม 3,296,623 ราย สำหรับประเทศไทยยังอยู่อันดับที่ 99 โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,630 ราย ซึ่งเดินทางจากต่างประเทศ 8 ราย และเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ 1,622 ราย นอกจากนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 22 ราย ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อรายจังหวัดนั้น จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดอันดับต้นๆ ยังคงเป็นกรุงเทพฯ, นนทบุรี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ปทุมธานี และชลบุรี แต่มีหลายจังหวัดที่แม้ว่ายอดผู้ติดเชื้อสะสมจะสูง แต่ยอดผู้ติดเชื้อรายวันนั้นเริ่มลดลง อาทิ นครปฐม และนครศรีธรรมราช ขณะที่จังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อเลยในวันนี้มีมากถึง 14 จังหวัด และจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อไม่เกิน 10 รายมีถึง 41 จังหวัด
พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า สำหรับรายละเอียดผู้เสียชีวิต 22 รายนั้น เป็นชาย 9 ราย หญิง 13 ราย ผู้เสียชีวิตอายุน้อยที่สุดคือ 30 ปี และอายุมากที่สุด 92 ปี โดยพบว่ามีโรคประจำตัวคือ ความดันโลหิตสูง 13 ราย และยังมีโรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, โรคไต และผู้ป่วยติดเตียง อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าผู้เสียชีวิต 2 รายนั้นเสียชีวิตในวันเดียวกันกับที่ทราบผลการติดเชื้อ โดยมาถึงมือแพทย์ในระยะที่อาการหนัก ส่วน 7 รายเสียชีวิตภายใน 1 สัปดาห์หลังทราบผลการติดเชื้อ ดังนั้น ขอเน้นย้ำประชาชนว่า เมื่อมีไข้ มีอาการทางเดินหายใจ มีประวัติเสี่ยง ขอให้เข้าสู่ระบบตรวจคัดกรองโดยเร็ว
พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า วันนี้กรมควบคุมโรคและกระทรวงการต่างประเทศได้มีการหารือกัน เพราะการระบาดของโควิดสายพันธุ์อินเดียนั้นไม่ได้อยู่เฉพาะในประเทศอินเดียเท่านั้น แต่ยังมีในประเทศปากีสถาน, บังคลาเทศ และเนปาล ซึ่งจะมีการหารือและประกาศให้รับทราบอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กมีความกังวลเรื่องเชื้อกลายพันธุ์ ทั้งเชื้อที่กลายพันธุ์มาแล้ว และเชื้อกลายพันธุ์ในประเทศไทย โดยที่ประชุมได้กำชับกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ให้เฝ้าระวังอย่างเข้มงวดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการเฝ้าระวังสูงสุด
“พบผู้ที่เดินทางมาจากปากีสถานติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย 2 รายแรกของไทย โดยกรมควบคุมโรคระบุว่า ผู้ติดเชื้อเป็นหญิงไทย 1 ราย อายุ 42 ปี และตั้งครรภ์ 25 สัปดาห์ เดินทางพร้อมบุตรชาย 3 คนจากปากีสถานกลับมาประเทศไทย โดยแวะพักเครื่องที่ดูไบ ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2564 ซึ่งผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวเดินทางมาตามระบบ จึงเข้าสถานกักตัวใน State Quarantine พักอยู่กับบุตรชายอายุ 4 ปี ส่วนบุตรชายอายุ 6 ปี และ 8 ปีนั้นอยู่อีกห้องหนึ่ง ซึ่งเมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2564 ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 1 ผลปรากฏว่า หญิงรายดังกล่าวและบุตรชายอายุ 4 ปีนั้นผลออกมาเป็นบวก ขณะที่บุตรชายอีก 2 คนนั้นผลออกมาเป็นลบ”พญ.อภิสมัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับการลงทะเบียนฉีดวัคซีน ซึ่งประชาชนกังวลค่าใช้จ่ายการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลเอกชนนั้น พญ.อภิสมัย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนเป็นนโยบายที่คนไทยทุกคนได้รับสิทธิในการฉัดวัคซีน ไม่ว่าลงทะเบียนกับโรงพยาบาลรัฐ หรือโรงพยาบาลเอกชน ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ขอให้ประชาชนศึกษาข้อมูล ฟังความรอบด้าน ตรวจสอบข้อมูล รวมทั้งฉีดวัคซีนรวมกันให้ได้ตามแผน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ทำให้ประเทศสามารถเดินหน้าได้










