SHEIN ตกที่นั่งลำบาก กำไรร่วงเกือบ 40% ยอดขายทั้งปี 2024 ต่ำกว่าคาด คู่แข่งในตลาดเริ่มกินมาร์เก็ตแชร์เพิ่ม

SHEIN ตกที่นั่งลำบาก กำไรร่วงเกือบ 40% ยอดขายทั้งปี 2024 ต่ำกว่าคาด คู่แข่งในตลาดเริ่มกินมาร์เก็ตแชร์เพิ่ม

หลายปีก่อน ‘SHEIN’ เป็นแบรนด์แฟชั่นออนไลน์สัญชาติจีนที่เรียกว่าโตเร็วมาก เป็นคู่แข่งหลักของเจ้าตลาดหลายราย เช่น H&M, ZARA และ uniqlo นักการตลาดหลายคนมองว่า SHEIN เข้ามา disrupt ทั้งเรื่องราคา และการขนส่งที่เร็วมาก ทำให้ที่ผ่านมาลูกค้าจากทั่วโลกมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่า 88 ล้านคน (จาก 74.7 ล้านคน ในปี 2022)

SHEIN กลายเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่หลายคนจับตา แต่ล่าสุด ยอดขายและกำไรในปี 2024 สะท้อนว่าแบรนด์ฟาสต์แฟชั่นรายนี้กำลังเผชิญปัญหาใหญ่

[ รายได้ทั้งปีโตแค่ 19% ]

Forbes middle east รายงานว่า ยอดขายทั้งปี 2024 ของ SHEIN เพิ่มขึ้นแค่ 19% เทียบกับปีก่อนหน้า แตะที่ 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าเป็นการเติบโตที่น้อยเมื่อเทียบกับหลายปีก่อนหน้า

ขณะที่ กำไรของ SHEIN ลดลงมากกว่า 1 ใน 3 หรือเกือบ 40% ลงมาเหลือ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2024 ทั้งที่ยอดใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของลูกค้า SHEIN ซึ่งเป็นกลุ่มมิลเลนเนียลมากที่สุด ต่อคนใช้จ่ายมากถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3,234 บาทต่อคน

รวมทั้ง ยอดเข้าเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน SHEIN มียอดราวๆ 215.42 ล้านครั้ง โดยมีระยะเวลาการเข้าชมเฉลี่ย 12 นาที 24 วินาที ลดลงเล็กน้อย จากที่ SHEIN เคยทำได้มากกว่านั้น (มีบางข้อมูลบอกว่าเกือบ 20 นาที)

[ 2 ปัจจัยกระทบ SHEIN ]

ผลประกอบการที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้นี้ เกิดขึ้นในขณะที่บริษัทกำลังเผชิญกับความท้าทายเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน

ก่อนหน้านี้ มีรายงานของ Financial Times ว่าบริษัทได้แจ้งนักลงทุนว่าการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป (IPO) อาจเกิดขึ้นได้เร็วที่สุดในเดือนเมษายนปีนี้ แต่สุดท้ายก็เลื่อนออกไป (เดิมที SHEIN วางแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กในช่วงปลายปี 2023)

โดยแหล่งข่าวเผยว่า การจดทะเบียนอาจจะล่าช้าไปจนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2025 หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ตัดสินใจเพิ่มความเข้มงวดในการยกเว้นภาษีศุลกากรให้กับ SHEIN ซึ่งใช้ในการขายให้กับลูกค้าชาวสหรัฐฯ มาตลอด นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะทำให้ SHEIN มีกำไรที่ลดลง เพราะสินค้ามีราคาสูงขึ้น

และปัจจัยที่ 2 คือ คู่แข่งหลักอย่าง ‘TEMU’ ซึ่งเข้ามาติด top 3 สินค้าแฟชั่นที่ได้รับความนิยมในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร โดยรูปแบบการขาย ลักษณ์ของสินค้ามีความ ‘ใกล้ชิดหรือเหมือน’ SHEIN อย่างมาก แต่ขายในราคาที่ต่ำกว่า

รวมไปถึง กลุ่มที่ต่อต้านธุรกิจ fast-fashion ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมค่อนข้างรุนแรงขึ้น ทำให้เกิดความกังวลในกลุ่มลูกค้าบางคน และตัดสินใจหยุดซื้อสินค้าจากธูรกิจเหล่านี้ ซึ่งก็มีทั้ง SHEIN และ TEMU 

ปัจจุบัน SHEIN มีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในการระดมทุนรอบปี 2023

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนและผู้ถือผลประโยชน์บางส่วนพยายามกดให้มูลค่าบริษัทลดลงเหลือประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คงต้องตามดูว่าการระดมทุนในปีนี้จะทำให้ SHEIN มีมูลค่าบริษัทเพิ่มหรือไม่ รวมถึงการเพิ่มกำไรในส่วนที่โดยชิงไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง
Prakaiporn WriterPrakaiporn

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง