คนขับแบ็คโฮ เผยสำนึกผิด ข้ามจากฝั่งกัมพูชามอบตัวคดียิงเสี่ยวังกุ้ง

คนขับแบ็คโฮ เผยสำนึกผิด ข้ามจากฝั่งกัมพูชามอบตัวคดียิงเสี่ยวังกุ้ง

เดินออกจากที่เกิดเหตุหลังลงมือยิงคู่กรณี

จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่นายบูรภัช พัชรพรนุกูล อายุ 36 ปี คนงานขับรถแบคโฮ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงนายนครินทร์ หงส์โต อายุ 41 ปี เจ้าของวังกุ้ง จำนวน 9 นัด เสียชีวิตอยู่ในรถยนต์กระบะที่นายนครินทร์ กำลังจะขับไปหาญาติ เหตุเกิดภายในซอยชุมชนพัฒนา 1 หมู่ที่ 6 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

วันที่ 19 ธ.ค. เวลาประมาณ 14.30 น. ผู้สื่อข่าวก็ได้รับการประสานจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายบูรภัช มือปืนรายนี้ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วตั้งแต่เวลาประมาณ 10.30 น. หลังจากหนีไปกบดานนานถึง 13 วัน โดยขอเข้ามอบตัวกับพลตำรวจตรีบุญญฤทธิ์ รอดมา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร

ทั้งนี้หลังจากที่ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนนานเกือบ 4 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ ชี้จุดเกิดเหตุพร้อมกับจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

เบื้องต้นทางผู้ต้องหาให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า สาเหตุที่ทำลงไปเพราะบันดาลโทสะเนื่องจากในวันเกิดเหตุขณะที่กำลังใช้รถแบ็คโฮทำงานขุดถนนวางท่อระบายน้ำอยู่นั้น ก็ถูกนายนครินทร์ ที่ขับรถมาจอดด้านหลังบีบแตรใส่เพราะรถแบ็คโฮขวางทางการจราจรแต่ตนไม่ได้ยิน พอตนขยับรถหลีกทางให้รถกระบะขับผ่านไปได้นั้น นายนครินทร์ก็ขับรถมาหยุดเทียบข้างแล้วตะโกนต่อว่าตน ก่อนที่จะขยับรถเดินหน้าไปอีกประมาณ 20 เมตร แล้วก็จอดอีก

จากนั้นทั้งตนและนายนครินทร์ ก็ลงจากรถของแต่ละคนมาพร้อมกัน โดยตนก็เดินไปบอกว่า มีอะไรครับพี่ใจเย็นๆ แต่กลับถูกนายนครินทร์ด่าใส่อย่างเดียวเลย อีกทั้งยังใช้มือผลักหน้าตนอีกด้วย ตนจึงปัดมือผู้ตายออก ทำให้ผู้ตายหันกลับไปหยิบปืนในรถออกมาจ่อตน ซึ่งตนก็ผลักมือของเขาที่ถือปืนออกไปอีก แล้วผู้ตายก็กลับเข้าไปนั่งในรถไขกระจกประตูขึ้น ก่อนที่จะเบิ้ลเครื่องรถยนต์ควันดำโขมง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตนหันหลังแล้วก็หันกลับมาชักปืนที่พกไว้ที่ข้างเอวขึ้นมายิงใส่ 9 นัด

หลังก่อเหตุก็ขับรถแบ็คโฮเอาไปจอดตรงแคมป์คนงาน แล้วก็ขับรถยนต์กระบะของตนที่ขับมาจอดในตอนเช้าหลบหนีไป โดยเอารถไปจอดทิ้งไว้ที่โรงไม้แห่งหนึ่ง แล้วหนีไปต่างจังหวัดก่อนจะข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านฝั่งกัมพูชา ส่วนที่กลับใจขอเข้ามอบตัวนั้นก็เนื่องจากว่า ทนการถูกกดดันจับกุมตัวจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว และรู้สึกสำนึกผิด คิดถึงครอบครัวไม่อยากให้ทางครอบครัวต้องเดือดร้อนหรือทุกข์ใจอีกด้วย

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายบูรภัช ไปสอบปากคำเพิ่มอีกที่ สภ.โคกขาม ก่อนที่จะส่งศาลจังหวัดสมุทรสาครพิจารณาดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพาอาวุธปืน ไปในทางหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต

ขณะที่ญาติของผู้ต้องหาได้ติดต่อขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์ 500,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยให้ไปดำเนินการขอประกันตัวในชั้นศาลต่อไป

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง