เทรนด์ใหม่ หนุ่มๆ ในซิลิคอนวัลเลย์ฉีด โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ มากขึ้น เพราะหน้าตาส่งผลกับการงาน

ภาพจำของคนทั่วไปที่มีต่อย่านซิลิคอน วัลเลย์ ในสหรัฐฯ คือเป็นแหล่งรวมของเด็กเก่งและเด็กเนิร์ด ที่ไม่สนใจการรูปร่างหน้าตาของตนเองมากนัก แต่จากรายงานล่าสุดของหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ ผู้ชายในย่านนี้กำลังให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก หันไปทำศัลยกรรมพลาสติก เพื่อทำให้ตนเองดูกระฉับกระเฉงและดูอ่อนวัยลงมากขึ้น

แหล่งข่าวรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า “แดเนียล” ที่ทำงานในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ บอกว่า พนักงานที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ของที่นี่ เริ่มหันมาให้ความสนใจกับรูปร่างหน้าตาและการแต่งตัวมากขึ้น ซึ่งแตกต่างจากเมื่อ 20-30 ปีก่อนอย่างมาก

วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่า คนกลุ่มนี้เริ่มหันมาพึ่งพาการฉีดโบท็อกซ์, ฟิลเลอร์, เลเซอร์ ทรีตเมนต์ และการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบนชั้นผิวหนัง และบางครั้งอาจถึงขั้นการทำศัลยกรรมรอบดวงตาหรือยกกระชับคอ

จากข้อมูลของสมาคมศัลยกรรมพลาสติกเพื่อความงามสหรัฐ ผู้ชายทำศัลยกรรมเพิ่มขึ้นจากปี 1997 ถึง 2005 ถึง 325% กระทั่งมีการเรียกชื่อเฉพาะของการทำศัลยกรรมสำหรับชายวัยกลางคนว่า “แดดดี้ ดู-โอเวอร์” (daddy do-over) ส่วนเมื่อปี 2018 มีผู้ชายฉีดฟิลเลอร์มากกว่า 1 แสนคน และโบท็อกซ์ราว 5 แสนคน

สำหรับพนักงานชายบางคนในซิลิคอน วัลเลย์ กระบวนการเสริมความงามเหล่านี้ คือหนทางที่นำไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานในบริษัทด้านเทคโนโลยี ที่มักให้ความสำคัญต่อคนหนุ่มสาว

ผู้หญิงโดยทั่วไปมักต้องทำตัวเองให้ดูสาวและสวยอยู่เสมอ ทั้งเพื่อความสำเร็จในอาชีพและการมีอายุที่ยืนยาว อย่างไรก็ตาม แดเนียลบอกว่า ในโลกแห่งวงการเทคโนโลยี มองความเปลี่ยนแปลงด้านรูปลักษณ์ภายนออกที่ต่างออกไป และเรียกการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ว่า “การเพิ่มประสิทธิภาพในการดำรงอยู่” เช่น การเล่นโยคะ การล้างพิษด้วยน้ำผักและผลไม้ การลดน้ำหนัก และศึกษาการทำศัลยกรรมพลาสติก

ความลุ่มหลงในการ “เพิ่มประสิทธิภาพ” ให้แก่รูปลักษณ์ภายนอกนี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของแรงผลักดันเพื่อหวังความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า ซึ่งสำหรับผู้หญิงที่ต้องทำงาน มักเป็นสิ่งที่พวเธอกล่าวเน้นย้ำอยู่เสมอ

แต่สำหรับผู้ชายแล้ว ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มักจะอยู่ในรูปแบบของการสร้างความสมดุลระหว่างการทำงานตลอดสัปดาห์ กับการออกกำลังกาย การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ การใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ และการใช้เวลากับครอบครัว

ยกตัวอย่างเช่น เจฟฟ์ เบซอส ซีอีโอของอเมซอน ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เขามีรูปลักษณ์ภายนอกที่ดีขึ้น ที่คาดว่าเป็นผลมาจากการออกกำลังกาย การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ดี และจ้างช่างตัดเสื้อส่วนตัว หรือแม้แต่การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะได้ผล เพราะเมื่อปีที่แล้ว เขาได้รับเชิญไปงาน “เม็ต กาล่า” (Met Gala) และดูกลมกลืนไปกับบรรดาคนดัง อย่าง “คิม คาร์ดาเชียน” และ “จาเร็ด เลโต้” ทั้งยังได้นั่งชมการแข่งขันเทนนิสวิมเบิลดัน เคียงข้างกับบรรดาสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ

ดังนั้น ดูเหมือนว่าผู้ชายที่อยู่ในโลกแห่งเทคโนโลยี การทำงานหนัก การสร้างฐานะ และการประสบความสำเร็จในอาชีพอาจไม่เพียงพออีกต่อไป และไม่ว่ารูปร่างหน้าตาหรือชีวิตส่วนตัวจะเป็นอย่างไร เพราะที่สุดแล้ว พวกเขาก็จะต้องเผชิญแรงกดดันเพื่อสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่