‘สงกรานต์​ รังสรรค์’ จากนักร้องร้อยล้านวิว สู่ผู้บริหารค่ายเพลง Double Mass

‘สงกรานต์​ รังสรรค์’ จากนักร้องร้อยล้านวิว สู่ผู้บริหารค่ายเพลง Double Mass

“แล้วเธอก็เดินจากไป ปล่อยให้วันเวลาดีๆ เป็นเพียงแค่ฝุ่นผง ทุกอย่างคงต้องเดินต่อไป แต่ถ้าฉันต้องรอให้เธอกลับมาเริ่มใหม่ คงไม่ทัน” หลายคนคงคุ้นหูกันดีกับเพลงนี้ที่มาจากศิลปินอย่าง ‘สงกรานต์​ รังสรรค์’  ภาพจำที่เราคุ้นกันดีคือการที่เขาเป็นศิลปินเจ้าของเพลงยอดวิวหลักร้อยล้าน แต่ตอนนี้เขากำลังรับบทบาทใหม่ที่แตกต่างออกไปจากการเป็นศิลปิน นั่นคือการมีหมวก ‘ผู้บริหาร’ เพิ่มเข้ามา

ตอนนี้ ‘สงกรานต์​ รังสรรค์’ กำลังสวมหมวกผู้บริหารค่ายเพลง Double Mass ควบคู่ไปกับการเป็นศิลปินเหมือนเดิม โดยที่ชีวิตเปลี่ยนแนวคิดต่าง เขายังมีศิลปินค่ายมากกว่าอีก 6 ชีวิตที่ต้องดูแล

แต่ความท้าทายคือ ในยุคนี้ธุรกิจเพลงกลับแข่งขันกันสูงมีคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวก็สร้างเพลงไวรัลได้ แล้วเรื่องราวของ  ‘สงกรานต์​ รังสรรค์’ ในหมวกผู้บริหารน่าสนใจอย่างไร? TODAY Bizview จะมาเล่าให้ฟัง 

[ จุดเปลี่ยนของชีวิตคือ The Voice ทำให้อยู่ในวงการเพลงมา 11 ปี]

“The Voice เป็นชีวิตหนึ่งของผม เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง เป็นโลกใบใหม่” 

หลังจากเป็น แชมป์ The Voice เขาก็เป็นศิลปินเต็มตัวออกเพลง คิดแค่ว่าจะทำเพลงอะไร และต้องทำให้เพลงออกมาดีๆ ร้องออกมาเพราะๆ ให้คนฟังได้ติดหู โดยที่ไม่ต้องวางแผนว่าทาร์เก็ตคนฟังเป็นใคร ออกเพลงมาแล้วขั้นตอนโปรโมทผ่านสื่อ หรือการออกอัลบั้มใดๆ เป็นหน้าที่ของทางค่ายจัดการ ซึ่งเขาเปรียบว่าตอนนั้นตัวเองเป็นเสมือน ‘สินค้า’ ที่มีค่ายหยิบไปวางบนเชลล์ต่างๆ ให้คนมาซื้อ (คนมาฟังเพลง) 

11 ปีแล้วที่ ‘สงกรานต์​’ อยู่ในวงการศิลปิน ทำเพลงติดหูให้คนฟังมาเยอะ แต่ทว่าปัจจุบันเขาไม่ได้มีหมวกใบเดียวอีกต่อไป เขาต้องสวมหมวก ‘ผู้บริหาร’ ค่ายเพลง Double Mass เข้าไปด้วย

[ ความแตกต่างของการเป็นศิลปินและผู้บริหาร แต่ถือคติ Never be a Loser ]

‘สงกรานต์​’ เล่าให้ฟังว่า “เคยได้ยินคำว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวไหม พอได้ยินครั้งแรก มันอาจจะไม่ใช่แค่เรานึกจะทำอะไร เราเป็นอะไร เราเคยอยู่จุดที่มีคนฟังเพลงเยอะๆ จากที่เคยเป็นสินค้า มาสู่ผู้ค้าหรือผู้ประกอบการณ์ ทำให้เข้าใจท่องแท้เลยว่า เราไม่สามารถคุยเรื่องธุรกิจได้แค่ไม่กี่คน คำว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวน่าจะเหมาะสุดสำหรับผม”

“มันคนละแบบเลย การคิดแบบศิลปินกับการเป็นเจ้าของ เมื่อก่อนเป็นศิลปิน คิดแค่ว่าเราจะทำเพลงอะไร พอเป็นผู้ค้าเรากลับคิดว่า ทาร์เก็ตมันกว้างมาก และเดี๋ยวนี้ใครๆ ก็ออกเพลงได้ มีคอมเครื่องเดียวก็ทำเพลงได้แล้ว เผลอๆ เพลงไวรัลด้วย พวกเขาเหล่านั้นน่ากลัว”

อย่างไรก็ตาม พอเป็นผู้บริหารก็มีจำนวนทีมงานที่ต้องดูแลราวๆ 10 กว่าชีวิต มีตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ต้องดู ต้นทุนที่ต้องควบคุม มาพร้อมกับการแข่งขันในอุตสาหกรรมเพลงที่สูง ซึ่งเขาเองก็ต้นทุนสูงกว่าผู้ผลิตเพลงที่ใช้คอมเครื่องเดียวด้วยทำให้เป็นอีกความท้าท้าย 

แต่ทั้งหมดนี้เขาดำเนินไปด้วยคติประจำใจที่ว่า “Never be a Loser” ซึ่งก็เป็น DNA ของศิลปินในค่ายเช่นกัน 

สำหรับค่ายเพลง Double Mass เปิดตัวมาแล้วกว่า 4 ปี มีศิลปินอยู่ราว 6 ชีวิต โดยที่ทุกคน “Never be a Loser” เช่น ‘เอ้ย จิรัช’ เจ้าของเพลงเกินปุยมุ้ย (aww) ในอดีตเล่นโซเชียลมีเดียไม่ได้เลย เป็นคนไม่ติดโซเชียล แต่พอมาเป็นศิลปิน เขาเลยพยายามเปลี่ยนตัวให้มาเป็นเขาในทุกวันนี้ที่มีคนรู้จักบนโลกโซเชียลมากขึ้นในหลายแพลตฟอร์ม 

ทำให้ในปีนี้ ‘สงกรานต์​’ ในฐานะผู้บริหารตั้งเป้าไปว่า จะพยายามทำให้ค่ายหารอยัลตี้แฟนของค่ายให้เจอ สร้างตัวตนของศิลปินให้ชัดเจน เพราะมันจะทำให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมเพลงได้ดี 

สมมติว่า เราเปรียบศิลปินเสมือนสินค้า เราเปรียบเพลงเสมือนของแถม วันหนึ่งที่ผู้บริโภคอยากได้ของแถม (เพลงไวรัล) เขาก็ต้องซื้อสินค้า (ศิลปิน) ไปด้วยอยู่ดี นำมาสู่โอกาสสร้างรายได้ในหลายช่องทาง ไม่ว่าจะ คอนเทนต์บนยูทูป งานอีเวนต์ พรีเซ็นเตอร์ เพลงประกอบละคร หรือโปรเจกต์อื่นๆ

“รอยัลตี้แฟนที่คิดไว้ก็น่าจะเป็นคนที่รู้สึกว่าอยากเห็นเราเติบโต คนที่ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ลุกได้ ก็น่าจะชอบศิลปินและผลงานของเรา” 

ในส่วนของผลงาน ปีนี้เราคงได้เห็นโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่ร่วมมือกับค่ายผลิตซีรีส์วาย แต่กำลังอยู่ในช่วงคิดโปรเจกต์กันอยู่ว่าจะทำอะไรร่วมกัน พร้อมทั้งยังคงเห็นผลงานเพลงจากศิลปินหลายๆ ชีวิตในค่ายเพลงที่โปรโมทออกมาเรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่จะเป็นเพลง “Alternative Pop” และมีคอนเทนต์บน Youtube ให้ได้ติดตามด้วย

และที่น่าสนใจคือ Double Mass กำลังจะทำรายการเซอร์ไวเวอร์ค้นหาศิลปินหน้าใหม่ที่มี DNA เดียวกัน (Never be a Loser) มาเพิ่มเข้าในค่าย 

[ มุมมองเกี่ยวกับ T-POP ]

‘สงกรานต์​’ ทิ้งท้ายว่า ในอุตสาหกรรมเพลงตอนนี้ไม่มีหลักสูตรสำเร็จตายตัว เขานับถือ ‘ชลากรณ์ ปัญญาโฉม’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานดิจิทัล บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารค่ายเพลง XOXO Entertainment บริษัท ทีป๊อป อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัทในเครือเวิร์คพอยท์ กรุ๊ป) มากๆ ที่ทำให้กระแสของ T-POP มีแรงกระเพื่อม จนเกิดเทรนด์เซ็กเตอร์ที่ทำให้ T-POP มีสีสัน มีศิลปินใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และมีค่ายเพลงที่กระโดดเข้ามาลงเล่น T-POP มากขึ้นด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง
AyosiriWriterAyosiri
เป็นนักข่าวการเงิน สนใจเรื่องการลงทุนและการตลาด ประวัติศาสตร์ อยากสื่อสารให้เรื่องเป็นเงินสำหรับทุกคน

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง