เป็นไวรัลอยู่ในจีนตอนนี้เมื่อสตาร์บัคส์ผสมผสานความแปลกใหม่ผ่านเมนูเครื่องดื่มใหม่ที่วางจำหน่ายในจีน คือ ‘กาแฟลาเต้หมูตุ๋น’
โดยเครื่องดื่มนี้ผสมซอสรสหมูตุ๋นเข้ากับเอสเพรสโซ่และนม ขายราคาแก้วละ 68 หยวน (9.45 ดอลลาร์) หรือราคาตกแก้วละ 340 บาท โดยทางแบรนด์อธิบายว่า ‘มีรสชาติที่น่าสนใจ’
เมื่อดูภาพโปรโมทเมนูนี้ ที่ทาง Shanghai Starbucks Reserve Roastery โพสต์บนโซเชียลมีเดีย Weibo จะเห็นเครื่องดื่มใหม่ล่าสุดนี้ ตกแต่งด้วยการราดซอสหมูบนโฟมลาเต้ และมีชิ้นเนื้อหมูสไลด์หั่นบางทรงสี่เหลี่ยมเสียบไม้เป็นท็อปปิ้ง
โดยทางแบรนด์โพสต์ข้อความไว้ก่อนช่วงตรุษจีนบน Weibo ว่า การกินเนื้อสัตว์หมายถึงความเจริญรุ่งเรืองในปีที่จะมาถึง และเสริมว่าเครื่องดื่มรสชาติใหม่นี้ได้นำประเพณีปีใหม่ดั้งเดิม (ตรุษจีน) มาสู่กาแฟ ผสมผสานสร้างรสชาติคาวและหวานที่ไม่คาดคิด
โดยมีรายงานว่า กาแฟลาเต้หมูตุ๋นของสตาร์บัคส์ในจีน ได้รับความสนใจอย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดียของจีน มีทั้งคนวิจารณ์ว่าไม่โอเคกับเมนูเครื่องดื่มใหม่แหวกแนวนี้ที่มาพร้อมกับราคาสุดพรีเมียม ขณะที่ก็มีคนที่อยากลองไปชิม
มีรายงานด้วยว่า สตาร์บัคส์ในจีนยังเปิดตัวเครื่องดื่มรสชาติใหม่อื่นๆ ในธีมวันหยุดตรุษจีนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ คือ ‘พุทรามัคคิอาโต้’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเค้กข้าวที่ถือเป็นขนมมงคลในช่วงปีใหม่ และ ‘มัคคิอาโต้เต้าหู้อัลมอนด์’ ตามข้อมูลที่มีปรากฎในบัญชีผู้ใช้ Shanghai Starbucks Reserve Roastery บนโซเชียลมีเดีย Weibo
ประเทศจีนถือเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของสตาร์บัคส์ มีร้านสตาร์บัคส์มากถึง 6,800 แห่ง และคาดว่าจะขยายสาขามากถึง 9,000 แห่งภายในปี 2568 และเพื่อดึงดูดลูกค้าชาวจีนทั่วประเทศ หลายครั้งสตาร์บัคส์ในจีนจะนำเสนอตัวเลือกเมนูเฉพาะในท้องถิ่นมาเรื่อยๆ
ขณะที่น่าสนใจว่าเดิมทีประเทศจีนเป็นตลาดเครื่องดื่มชามากกว่ากาแฟ แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมายอดขายกาแฟเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตเมืองและในกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ โดยเชนร้านกาแฟยอดนิยมของคนจีนคือ สตาร์บัคส์ และ ลัคกิ้น คอฟฟี่
พูดถึงสตาร์บัคส์ในจีน จะไม่พูดถึงอีกเชนร้านกาแฟยอดนิยมในจีนไม่ได้ นั่นก็คือ ลัคกิ้น คอฟฟี่ (Luckin Coffee) ที่ก่อตั้งมาในปี 2017 ในแบบธุรกิจสตาร์ทอัพและเติบโตเป็นยูนิคอร์น ถือเป็นแบรนด์จีนที่ตั้งมาเพื่อท้าทายความนิยมของสตาร์บัคส์ในจีน วางโพสิชั่นเป็นตัวเลือกกาแฟราคาไม่แพง เข้าถึงง่ายอยู่ในชีวิตประจำวัน โดยไม่มีการซื้อที่หน้าเคาน์เตอร์ จะต้องสั่งผ่านแอปพลิเคชั่น มารับที่หน้าร้านหรือเดลิเวอรี่ไปยังจุดต่างๆได้ทั่วถึง ปัจจุบัน ลัคกิ้น คอฟฟี่ มีสาขาในจีนกว่า 13,000 แห่ง แซงหน้าสตาร์บัคส์
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2020 กาแฟลัคกิ้นเคยเป็นข่าวใหญ่ถูกเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวทางบัญชีปลอมแปลงยอดขายบริษัท กระทั่งต่อมาบริษัทยอมจ่ายค่าปรับ 180 ล้านดอลลาร์ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาเพื่อชำระค่าธรรมเนียมฉ้อโกงทางบัญชี ต่อมาปี 2021 ลัคกิ้นยื่นฟ้องล้มละลายในนิวยอร์ก นำมาสู่การปรับโครงสร้างหนี้และเปลี่ยนผู้บริหาร มีการปรับปรุงการกำกับดูแลและการควบคุมภายใน กระทั่งต่อมาบริษัทกลับมาฟื้นและประกาศผลกำไรอีกครั้งเมื่อปี 2022










