ซีอีโอ ‘สตาร์บัคส์’ บอก ลูกค้ายังซื้อเครื่องดื่มดีเหมือนเดิม แม้ตอนนี้เงินเฟ้อจะพุ่งก็ตาม ผลมาจากความต้องการอย่างต่อเนื่องของ Gen Z และเครื่องดื่มที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ
อย่างที่เรารู้กันว่าสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปัจจุบันอยู่ในสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา เงินเฟ้อพุ่งแตะ 9.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทุบสถิติรอบ 40 ปี ทำให้พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นชะลอการใช้จ่ายลง หรือมองหาตัวเลือกที่ราคาถูกกว่า เพื่อรับมือกับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น
น้่นทำให้ยอดขายสินค้าของบริษัทและร้านค้าจำนวนมากได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ดูเหมือนว่าประเด็นเงินเฟ้อนี้จะทำอะไรร้านกาแฟเจ้าใหญ่อย่าง ‘สตาร์บัคส์’ ไม่ได้
ตามรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3/2022 (4 เม.ษ. – 3 ก.ค.) ยอดขายสุทธิของสตาร์บัคส์เพิ่มขึ้นเกิดคาดที่ 9% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แต่ถ้าดูการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมทั่วโลกอยู่ จะอยู่ที่ที่ 3% ส่วนสาขาในอเมริกาเหนือเติบโตที่ 9% โดยส่วนใหญ่มาจากยอดสั่งซื้อเฉลี่ยที่สูงขึ้น รวมถึงการแวะเวียนมาหน้าร้านก็เพิ่มขึ้น 1%
ทั้งนี้ ช่วงเช้ากลายเป็นช่วงเวลาที่กลับมาขายดีของสตาร์บัคส์อีกครั้ง โดยคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้ เพราะผู้บริโภคสามารถปรับตัวกับโรคระบาดได้ดีขึ้น
‘โฮวาร์ด ชูลท์’ ซีอีโอของสตาร์บัคส์ กล่าวว่า ลูกค้าสตาร์บัคส์ไม่ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย และยังคงซื้อเครื่องดื่มที่มีราคาสูงกว่า ความต้องการซื้อยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จากปีที่แล้ว
เขายังเสริมอีกว่า พลังที่คงอยู่นี้เป็นผลมาจากความนิยมเครื่องดื่มเย็นของลูกค้าวัยหนุ่มสาว (Gen Z) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของสตาร์บัคส์ โดยเครื่องดื่มเย็นคิดเป็น 75% ของยอดขายในสหรัฐฯ ในไตรมาสนี้
โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้มักปรับแต่งและออกแบบเครื่องดื่มตามความต้องการของตัวเอง แล้วโพสต์รูปภาพบนโซเชียลมีเดีย ทำให้สตาร์บัคส์มี “ข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญ”
ทั้งนี้ ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มท็อปปิ้งและส่วนประกอบอื่นๆ อย่างเช่น น้ำเชื่อมและนม ทำให้ราคาของเครื่องดื่มสูงขึ้น ซึ่งแปลว่าลูกค้ายอมจ่ายในราคาที่สูงกว่านั่นเอง
ชูลท์คาดว่าจะสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องเมื่อคนวัยทำงานกลับมาที่สำนักงานและซื้อกาแฟยามเช้าระหว่างทางอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงได้ หากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงยิ่งขึ้น สตาร์บัคส์จะปรับตัวโดยเน้นที่การให้ส่วนลดอย่างเช่น แก้วที่ 2 ลด 50% และเพิ่มมูลค่าของรางวัลแก่สมาชิกบัตรสตาร์บัคส์
แต่เมื่ออัตราเงินเฟ้อและค่าจ้างก็จะสูงขึ้นตามไปอีก ส่งผลกระทบอัตรากำไรของบริษัท บริษัทก็อาจจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์อื่นมาต่อสู้กับความเสี่ยง อย่างการขึ้นราคาอีกก็เป็นได้
ที่มา :
https://www.businessinsider.com/starbucks-customers-arent-trading-down-for-cheaper-drinks-2022-8
https://www.cnbc.com/2022/08/02/starbucks-sbux-q3-2022-earnings.html
https://www.nytimes.com/2022/08/02/business/starbucks-quarterly-earnings.html










