ภูมิใจไทย เสนอแก้กฎหมายให้ผู้กู้ กยศ.ใช้คืนเฉพาะเงินต้น

ภูมิใจไทย เสนอแก้กฎหมายให้ผู้กู้ กยศ.ใช้คืนเฉพาะเงินต้น

วันที่ 14 ก.ย.พรรคภูมิใจไทย จัดให้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นกฎหมาย “แก้หนี้ กยศ.ปลดทุกข์เด็กไทย” โดยมีทั้งทีมงานของพรรค, ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), ผู้กู้ กยศ. และผู้ได้รับผลกระทบจากการค้ำประกัน เข้าร่วม

ดร.กมล รอดคล้าย ประธานยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ได้รับฟังความเห็นจากนักเรียน นักศึกษา ประชาชน พบว่า ลูกหนี้ต้องการให้ลดดอกเบี้ย ลดหนี้ลง โดยปลดระยะเวลาการชำระให้ยาวนานขึ้น หรือกรณีมีเบี้ยปรับให้มีน้อยที่สุดหรือปลอดเบี้ยปรับ รวมถึงไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน เพราะผู้กู้สามารถค้ำประกันตนเองได้ ซึ่งพรรคจะนำเสนอร่างพ.ร.บ.กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่..) พ.ศ… ซึ่งร่างพ.ร.บ.นี้ จะนำความคิดเห็นในที่ประชุมแห่งนี้ นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา

ดร.พะโยม ชิณวงศ์ ทีมยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา กล่าวว่า สภาพปัจจุบันผู้ร่วมกู้กยศ.ประมาณ 5.6 ล้านคน เริ่มชำระหนี้แล้วประมาณ 3 ล้านคน ถูกดำเนินคดีไปไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ต้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น ที่ผ่านมา กยศ.จะให้เวลาสำหรับการพักชำระหนี้ ต้องเข้าใจว่า ผู้ที่กู้ยืม กยศ.ก็เพราะสาเหตุความยากจน และสภาพแวดล้อมของผู้กู้เหล่านี้ ไม่ได้มีหนี้เฉพาะหนี้ กยศ.เท่านั้น นอกจากนี้หลังจบการศึกษาแล้วก็อาจจะไม่ได้งานทำ ตกงาน หรือรายได้ไม่เพียงพอ ดังนั้น ต้องแก้ปัญหาทุกข์ของเด็ก โดยเฉพาะผู้ที่ถูกบังคับคดี ควรหาแนวทางการแก้ปัญหาส่วนนี้โดยเร็ว

“พรรคมีนโยบายในการแก้ปัญหาโดยต้องการปลดผู้ค้ำประกัน ปรับโครงสร้างหนี้ การทำงานชดเชยให้กับภาครัฐเพื่อปลดหนี้ และ การขยายเวลาผ่อนผันเงินต้น”

ดร.สฤษดิ์ บุตรเนียร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคเสนอ พ.ร.บ. ฉบับนี้ เพื่อต้องการขับเคลื่อนให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและชัดเจน โดยเสนอ

– ให้ยกเลิกการให้มีผู้ค้ำประกันการชำระเงินกู้ยืม
– การให้ผู้กู้ยืมเงิน เลือกทำงานให้รัฐแทนการชำระเงินกู้ยืมได้ตามเงื่อนไขของคณะกรรมการกำหนด
– ให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาปลอดดอกเบี้ย และให้มีผลไปถึงผู้มีเงินค้างชำระอยู่ให้ชำระคืนเฉพาะเงินต้น
– ให้ผู้ที่จบการศึกษา เกียรตินิยมอันดับ 1 ในระดับอุดมศึกษา ได้รับการแปลงหนี้เงินกู้ยืมเป็นทุนการศึกษา โดยไม่ต้องชำระเงินกู้ยืม
– ให้ผู้ที่จบการศึกษา ระดับอุดมศึกษา จากคณะหรือสาขาที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนด ได้รับการแปลงหนี้เงินกู้ยืมส่วนที่ค้างชำระเป็นทุนการศึกษา
– หากต้องคำพิพากษาก่อนกฎหมายนี้บังคับใช้ เมื่อได้ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับกองทุนแล้วถือว่าหลุดพ้นจากประวัติการชำระหนี้อันไม่ก่อให้เกิดรายได้ ในข้อมูลเครดิตบูโร

ด้าน นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุน กยศ. กล่าวว่า เห็นด้วยที่จะมีการแก้ไขปัญหาของลูกหนี้ กยศ.  ภาพรวมของกยศ. มีผู้กู้ยืมเงินจากกองทุน 5.6 ล้านราย วงเงินกู้ยืม 6 แสนล้านบาท เป็นหนี้เสีย 7.9 หมื่นล้าน  นักเรียนแต่ละคนจะมีหนี้เงินกู้เฉลี่ย 1 แสนบาท ให้เวลาผ่อนชำระ 15 ปี ยอดเงินที่ต้องชำระหนี้ เดือนละ 1,500 บาทและขยับเป็น 3,000 บาท ตกวันละเพียง 5-10 บาท ถ้าทำเช่นนี้ 15 ปี ก็ชำระหนี้ได้ 1 แสน และเหลือเงินออม 3,000 กว่าบาท แต่มีผู้ผิดนัดชำระหนี้ 3 สาเหตุ คือ ยากจน ขาดแคลน กลุ่มที่ 2 มีหนี้อื่น เลือกชำระหนี้อื่นก่อนและเลือกชำระหนี้กยศ.สุดท้าย และ กลุ่ม 3 มีเงิน แต่ไม่จ่าย กยศ.ติดตามหนี้อย่างอะลุ่มอล่วย ฟ้องคดีด้วยความจำเป็น เดินสายไปทั่วประเทศ เพื่อไปรับฟังความเห็นของลูกหนี้ ถ้าใครถูกฟ้องไปที่ศาล เราลดเบี้ยปรับลง และขยายระยะเวลาชำระหนี้อีก

ขณะที่นางปทิตตา วิปัสสา ผู้ได้รับผลกระทบจากการค้ำประกัน กล่าวว่า ตนเองเดือดร้อนมาก ผู้กู้มีงานทำแต่หน่วยงาน กยศ. บังคับคดียึดทรัพย์คนค้ำประกัน ยอดเงินทั้งหมดที่ต้องส่ง 2.6 แสนกว่าบาท เงินต้น 1.1 แสนบาท ดอกเบี้ย 1.8 แสนบาท ต้องชำระ 3 ปี เดือนละ 7,365 บาท ขณะนี้ตกงานอยู่ อยากให้กองทุนช่วยเหลือเพราะเราไม่มีเงิน บ้านก็จะถูกยึดและต้องดูแลแม่ที่วัยชรา

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง