สพฐ. เร่งถอดบทเรียนหลังพบเปิดเทอมนักเรียนติดโควิด ชี้พบเด็กติดเชื้อจากผู้ปกครอง

สพฐ. เร่งถอดบทเรียนหลังพบเปิดเทอม นักเรียนติดโควิด ชี้ยังไม่มีการแพร่ระบาดในโรงเรียน แต่พบเด็กติดเชื้อจากผู้ปกครอง และนำมาแพร่ในโรงเรียนอีกต่อ

วันที่ 19 พ.ย.2564 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายให้สถานศึกษาเปิดเรียนรูปแบบ On-site ในวันที่ 1 พ.ย. 2564 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินการเปิดเรียนรูปแบบ On-site ตามนโยบายของรัฐบาล และการเปิดเรียนนั้นต้องเป็นไปตามมาตรการที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำหนด และจัดทำแผนเผชิญเหตุให้โรงเรียนปฏิบัติตาม หากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย 

อย่างไรก็ตามขณะนี้ มีโรงเรียนเปิดสอนรูปแบบ On-site แล้วกว่า 13,000 แห่ง และเชื่อว่าในวันที่ 1 ธ.ค. นี้ จะมีโรงเรียนในสังกัด สพฐ. 90 – 100% ที่มีความพร้อมสามารถเปิดสอน On-site ได้ แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดด้วย

จากการเปิดเรียน On-site เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ยังไม่พบการแพร่ระบาดในโรงเรียน แต่การระบาดเกิดขึ้นจากผู้ปกครองได้รับเชื้อมาแล้วมาแพร่ให้ครอบครัว และนักเรียนนำมาแพร่ในโรงเรียนอีกต่อ เมื่อโรงเรียนตรวจพบแล้วก็ทำการควบคุมตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดไว้ เช่น ปิดโรงเรียน ตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยง เป็นต้น

ขณะนี้มีการติดเชื้อในโรงเรียนจำนวนมาก เช่น ใน จ.อุบลราชธานี ที่นักเรียนติดเชื้อจากผู้ปกครอง หรือมีนักเรียนหลายคนติดเชื้อจากการเดินทางจากรถรับส่งนักเรียน และโรงเรียนใน จ.กำแพงเพชร รวมถึงโรงเรียมัธยม จ.โคราช ที่พบนักเรียนติดเชื้อจากผู้ปกครอง จนโรงเรียนประกาศปรับแผนการเรียนการสอนทุกระดับชั้น  ซึ่งหากโรงเรียนใดพบผู้ติดเชื้อ จะไม่ปิดทั้งโรงเรียน ให้โรงเรียนปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ เราควรจะเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกับโควิด-19 ให้ได้ และจะทำอย่างไรที่จะไม่ให้โควิด-19 มาคุกคามชีวิตเราได้ ซึ่งขณะนี้โรงเรียนในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ทางผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดได้เข้าไปดูแลช่วยเหลือและควบคุมการระบาดแล้ว 

อย่างไรก็ตาม สพฐ. จะนำเหตุการณ์ที่เกิดการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่มาถอดบทเรียนเพื่อหาแนวทางป้องกันต่อไป และอยากเชิญชวนให้ผู้ปกครองได้ฉีดวัคซีนให้ครบเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเองและนักเรียนด้วย

ด้านนายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยข้อมูลวันที่ 18 พ.ย. 2564 จำนวนนักเรียนนักศึกษาอายุ 12 ปีขึ้นไป ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ทั่วประเทศ จำนวนผู้ประสงค์ฉีด 3,960,662 คน เข็ม 1 ฉีดแล้ว 3,503,998 คน คิดเป็น 88.47% และเข็ม 2 ฉีดแล้ว 1,088,473 คน คิดเป็น 27.48%