ตอนนี้ธุรกิจร้านอาหารที่แทบไม่ได้พัก เพราะจุดพลุสงครามแข่งเดือดกันอยู่เรื่อยๆ หนึ่งในนั้นคงเป็น ‘สุกี้หม้อแดง’ บุฟเฟ่ต์ราคาต่ำกว่า 300++ หรือ Budget Buffet ยิ่งเข้าใกล้ช่วงปลายปีเท่าไหร่ ก็ยิ่งปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตอบโต้กันไปมาไม่หยุด

กลยุทธ์หนึ่งที่ทำได้เร็ว ทำได้ง่าย และไม่ว่าจะผ่านไปกี่ทศวรรษธุรกิจก็เลือกเดินเกมอยู่แบบนี้ นั่นก็คือ การขยายสาขาเพื่อกระตุ้นรายได้ให้ธุรกิจ ปูทางตัวเลขสวยๆ ปิดปีงบประมาณ เพื่อต้อนรับปีใหม่ 2026 ซึ่งเหลืออีกแค่ 43 วันเท่านั้นเอง

[ BONUS SUKI ปักธงขอมี 100 สาขาอีก 2 ปี ]

แบรนด์น้องใหม่อายุธุรกิจ 4 เดือน ‘BONUS SUKI’ (โบนัส สุกี้) ภายใต้บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เริ่มชิมตลาดด้วยการทดลองเปิดบุฟเฟ่ต์ราคาคุ้มค่าที่แรกในจ.สระบุรี เมื่อ 16 กรกฎาคม 2568

จากนั้นก็ขยับร้านสาขา 2 ที่ แม็คโคร โลตัส มอลล์ ชัยนาท เมื่อ 29 สิงหาคม 2568 จนเป็นสาขาที่ 3 ที่ Little Walk (รามคำแหง) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เข้ามาเปิดในกรุงเทพฯ กระแสตอบรับที่ดีเกินคาดทำให้ปัจจุบัน โบนัส สุกี้ กำลังจะมีสาขาทั้งหมด 16 แห่งภายในสิ้นปีนี้ (จาก 13 แห่งในตอนนี้)

ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมาทั้งกลยุทธ์เรื่องราคา 219 บาท, เวลาที่ให้ลูกค้า 2 ชั่วโมง 15 นาที, เมนูกว่า 60 รายการ, บาร์ขนมที่มากกว่าของทอด และเครื่องดื่มที่หลากหลาย ทำให้เกินกว่า 25% พบว่ามีลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำภายใน 4 เดือน และมีแฟนตัวยงของโบนัส สุกี้ กลับมาทานซ้ำมากที่สุดถึง 37 ครั้ง

สำหรับเป้าหมายเรื่องตัวเลขยอดขาย โบนัส สุกี้ ประเมินว่าปลายปีนี้รายได้จะแตะที่ 150 ล้านบาท ขณะเดียวกันจะไต่ระดับไปสู่ยอดขายรวม 3,600 ล้านบาท ด้วยปัจจัยการเพิ่มอัตราเร่งการขยายสาขา 100 แห่ง ภายในช่วง Q2/2570

โดยมี position ของแบรนด์คือ ต้องการเป็นธุรกิจที่ขยายไวและเติบโตเร็วที่สุดในตลาด และอุตสาหกรรมสุกี้บุฟเฟ่ต์

[ ติดปีกขยาย 120 สาขา ปั้นรายได้ 5,000 ล้านบาทอีก 3 ปี ]

ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ สงครามธุรกิจสุกี้เริ่มสะเทือนแรงขึ้น หลังจากที่มีความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ที่ตัดสินใจเข้าร่วมทุน 40% ในบริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด เจ้าของแบรนด์ ‘ลัคกี้ สุกี้’ และ ‘ลัคกี้ บาร์บีคิว’

ธุรกิจที่เปิดมากว่า 3 ปี กับจำนวนสาขาที่อาจจะไม่เยอะเท่าอีก 2 เจ้าหลักในตลาด Budget Buffet อยู่ที่ 38 สาขา (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2568) แต่ในแง่ของการเติบโตที่ค่อนข้างเพิ่มรากฐานธุรกิจได้มั่นคง โดยผลประกอบการของ ‘ลัคกี้ สุกี้’ ในปี 2567 ทะลุ 1,015 ล้านบาท ส่วนกำไรแตะ 100 ล้านบาทครั้งแรก

ภายใต้การดูแลของ CRG (ซึ่งการถือหุ้นจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนธันวาคม 2568) ล่าสุดมีคาดการณ์ว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า มิราเคิล แพลนเนท จะสามารถสร้างยอดขายรวมประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2571

โดยตั้งใจเดินเกมขยายสาขาต่อเนื่อง ปักหมุดอยู่ที่ 120 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งจะเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ปีละ 20-25 สาขา เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น

เป้าหมายที่วางไว้ของบริษัทฯ คาดว่าจะเห็นชัดเจนขึ้น ตั้งแต่ปี 2569 ทั้งสาขาของลัคกี้ สุกี้ และลัคกี้ บาร์บีคิว ที่จะเข้าสู่ตลาดประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าจะครบตามเป้า

ต้องคอยดูว่า จากความเชื่อเดิมของผู้บริหารทั้ง 4 ที่มองว่า “ช้าแต่ชัวร์” ในด้านการขยายสาขา เมื่ออยู่ในร่มเดียวกับ CRG แล้ว จะปรับทิศทางธุรกิจ และไดร์ฟธุรกิจด้วยความเชื่อแบบเดิมอีกหรือไม่ อย่างไร

[ สุกี้ตี๋น้อยเตรียมจับเงิน ‘หมื่นล้าน’ เน้นเปิดสาขาใหม่ทุกสัปดาห์ ]

น่าจะเป็นธุรกิจที่มีอายุเปิดให้บริการนานที่สุด เมื่อเทียบกับอีก 2 แบรนด์ โดย ‘สุกี้ตี๋น้อย’ ของบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดตัวสาขาแรกเมื่อปี 2561 (กว่า 7 ปี) โดยบริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) ได้เข้ามาถือหุ้น 30% ตั้งแต่ปี 2565

กิจการของสุกี้ตี๋น้อย เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากกำไร 15 ล้านบาท (ปี 2562) สู่กำไร 1,169 ล้านบาทในปี 2567

‘เฟิร์น-นัทธมน พิศาลกิจวนิช’ เคยให้สัมภาษณ์กับ TODAY Bizview ไว้ว่า การรู้ว่าลูกค้าต้องการอะไรสำคัญมากกับธุรกิจบุฟเฟ่ต์ Budget Buffet แต่การเทิร์นโต๊ะเร็ว (ให้บริการไว, เก็บกวาดเร็ว, เซอร์วิสเต็มที่) ทำให้เพิ่มโอกาสในการได้ยอดขายสูงขึ้น เพราะลูกค้าหมุนเวียนเร็ว ขณะเดียวกันเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าด้วย

จากสุกี้ตี๋น้อย 90 สาขาในปัจจุบัน ทางแบรนด์ส่งสัญญาณมาตลอดเรื่องการขยายสาขา เช่น การค้นหาโชว์รูมร้างในแต่ละจังหวัด แต่ล่าสุด เฟิร์น-นัทธมน พูดชัดขึ้นว่า ปี 2569 ร้านสุกี้ตี๋น้อย เตรียมจะขยายสาขาเพิ่มทุกสัปดาห์

ที่น่าสนใจคือ สุกี้ตี๋น้อย ไม่มีตัวเลขชัดเจนเรื่องจำนวนสาขาตามเป้าหมาย แต่จะเน้นขยายตามโอกาสและโลเคชั่นที่เหมาะสมมากที่สุดเท่าสที่จะทำได้

แต่ที่แน่ๆ จากรายได้รวมในปี 2567 ที่บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ โกยไปกว่า 7,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าปี 2568 ยอดขายจะอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท และจะทะลุ 10,000 ล้านบาทในปี 2569

ดูจากกลยุทธ์การตลาด โปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า และกิมมิคการตลาดมากมายที่ออกมาทุกสัปดาห์ ก็น่าจะทำให้ตลาดสุกี้บุฟเฟ่ต์ระดับนี้แต่งแต้มสีสันได้มากขึ้น ในช่วงเศรษฐกิจทั้งภายในและภายนอกกำลังดาวน์ลงอย่างไร้ทิศทาง