ซูเปอร์มาร์เก็ต ต้องนับคนเข้า-ออก ปล่อยแน่นเกินเตือนแล้วแก้ไม่ได้ ถึงขั้นสั่งปิด

ซูเปอร์มาร์เก็ต ต้องนับคนเข้า-ออก ปล่อยแน่นเกินเตือนแล้วแก้ไม่ได้ ถึงขั้นสั่งปิด

วันที่ 3 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด ด้านความมั่นคง กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่ใช้มาตรการผ่อนคลายให้กิจการบางประเภทที่เคยปิดให้กลับมาเปิดได้
.
แต่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งที่ 2 เช่น สถานประกอบการต้องทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัส, จัดให้ทุกคนสวมหน้ากาก, จัดให้มีเจล แอลกอฮอล์ล้างมือ, มีมาตรการเว้นระยะ , ทำทุกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดความแออัดในสถานบริการ
.
อย่างไรก็ตาม มีกรณีตัวอย่าง เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรงงานแห่งชาติและเป็นวันหยุดของภาคเอกชน มีคนจำนวนมากออกไปช้อปปิ้งที่ซูเปอร์มาร์เก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใย ได้สั่งการมาว่าอาจจะมีการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามที่กำหนด และมอบหมายให้ไปตรวจสอบ
ตนได้ไปสุ่มดูบางซูเปอร์มาร์เก็ตบางห้าง พบว่าอาจจะมีความคลาดเคลื่อนหรือขาดความพิถีพิถันในการดำเนินการบ้าง ซึ่งได้ให้แก้ไขแล้ว
.
โดยซูเปอร์มาร์เก็ตเปิดได้ แต่ต้องทำตามมาตรการเรื่องไม่ให้เกิดความแออัดในสถานบริการ เช่น มีพื้นที่ 7,000 ตร.ม. หารออกมาต้องมีคนอยู่ในพื้นที่เวลาเดียวกันได้ไม่เกิน 10 ตร.ม.ต่อคน ดังนั้นจะมีคนอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ได้พร้อมกัน 700 คน เมื่อหักเจ้าหน้าที่ออก 300 คน จะรับลูกค้าได้เพียง 400 คน
.
“เขาต้องเข้มงวดนับคนเข้า นับคนออก มีคนเกินไม่ได้ นี่คือมาตรการที่เราจะไปตรวจ”
การกำกับว่าสถานประกอบการจะดำเนินการไปตามมาตรการหรือไม่ จะเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และมีชุดตรวจของความมั่นคงที่จะประกอบกำลังจากหลายส่วน ทั้งตำรวจ สาธารณสุข และอาสาสมัครที่เกี่ยวข้องจะลงไปตรวจสอบซ้ำ
.
ถ้าสถานประกอบการไม่ทำตามจะเตือนก่อน ถ้าไม่ทำอีกจะสั่งปิด เพราะถือเป็นความรับผิดชอบต่อภาพรวม มิใช่ต้องการกลั่นแล้ง แต่เพื่อให้คนที่ไปใช้บริการเกิดความสบายใจและมั่นใจว่าปลอดภัยพอเพียง

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง