เครือร้านซูชิสายพานญี่ปุ่นกำลังเร่งขยายธุรกิจไปต่างประเทศ หลังตลาดในญี่ปุ่นโตช้าลง เพราะจำนวนประชากรลดลง ขณะที่เทรนด์ความนิยมซูชิสายพานในบ้านเรากำลังมา
Sushiro เจ้าตลาดซูชิสายพานในญี่ปุ่น ภายใต้บริษัท Food & Life (F&LC) ธุรกิจซูชิสายพานรายใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นตั้งเป้าจะเปิดสาขาร้านต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 310–320 สาขาภายในปี 2026 หลังจากตอนนี้มีร้านต่างประเทศเกิน 200 แห่งแล้ว
โดยร้านสาขานอกประเทศญี่ปุ่นนำเสนอเมนูหลักเหมือนที่ญี่ปุ่น แต่จะมีบางเมนูปรับให้เหมาะกับตลาดผู้บริโภคในแต่ละประเทศด้วยเช่นกัน
อีกร้านซูชิสายพานดังในญี่ปุ่น Kura Sushi ตั้งเป้าขยายร้านต่างประเทศเกิน 2 เท่า เป็นกว่า 400 สาขาภายในปี 2030 โดยเริ่มจากไต้หวันและจะขยายต่อไปยังอเมริกาเหนือ โดยวางแผนเปิดสาขาร้านในต่างประเทศ 15–20 แห่งต่อปี หากดูเฉพาะในสหรัฐอเมริกา Kura Sushi มีร้านในสหรัฐฯ 73 แห่ง โดยเมนูประมาณ 80% ปรับให้เข้ากับรสนิยมท้องถิ่น และยังปรับตัวด้วยการเปิดรับทิปด้วย
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา Kura Sushi เคยถอนตัวจากการลงทุนในจีนเนื่องจากการแข่งขันสูงและต้นทุนวัตถุดิบเพิ่ม
มาดูที่ Kappa Sushi ของ Kappa Create จากโยโกฮาม่า ก็ประกาศจะลุยธุรกิจซูชิสายพานในต่างประเทศเต็มตัว หลังเข้าซื้อหุ้นบริษัทในเกาหลีใต้คืนและตั้งบริษัทย่อยในอินโดนีเซียเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
บริษัทเชื่อว่าตลาดซูชิสายพานต่างประเทศมีศักยภาพสูง เพราะยังมีจำนวนประชากรที่มีกำลังซื้อจึงมีโอกาสเติบโตสูง อีกทั้งมองว่าราคาสมเหตุสมผลและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่
ตลาดซูชิสายพานในญี่ปุ่นปี 2025 มีมูลค่า 831.8 พันล้านเยน (ประมาณ 5.65 พันล้านดอลลาร์) โต 6.2% จากปีที่แล้ว แต่คาดว่าอนาคตในอีกหลายปีการเติบโตในญี่ปุ่นจะชะลอและอาจเหลือต่ำกว่า 1% จากจำนวนประชากรที่ลดลง
จำนวนร้านซูชิสายพานในญี่ปุ่นปี 2024 เพิ่มขึ้นเพียง 1.2% เป็น 4,270 ร้าน และคาดว่าหลังปี 2025 การเติบโตจะต่ำกว่า 1% ต่อปี
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เครือร้านซูชิสายพานใหญ่ของญี่ปุ่น เช่น Sushiro, Kura Sushi, และ Kappa Sushi มุ่งขยายตลาดต่างประเทศ
ที่ผ่านมาจะเห็นความพยายามของธุรกิจซูชิสายพานในการขยับขยายการลงทุน เช่น ในงาน Osaka Expo 2025 ที่่ทางผู้จัดพยายามช่วยโปรโมตร้านซูชิสายพานให้โดดเด่น อาทิ การนำเสนอว่า Sushiro เน้นวัตถุดิบจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน และเคยนำประสบการณ์จาก Expo ที่ดูไบ มาปรับเมนู “Muslim-friendly” ในอินโดนีเซียและมาเลเซีย
ตอนนี้ธุรกิจซูชิสายพานญี่ปุ่นกำลังปรับตัวไปสู่การขยายตลาดต่างประเทศจับโอกาสเติบโตในตลาดเอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอเมริกาเหนือเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงจากตลาดภายในญี่ปุ่นที่โตช้า
และที่น่าสนใจคือ ร้านสาขาต่างประเทศเหล่านี้ได้ปรับเมนูให้เข้ากับรสนิยมแต่ละท้องถิ่น เปิดรับความต่างวัฒนธรรมมาประยุกต์บ้าง แต่โดยภาพรวมยังรักษาภาพลักษณ์แบรนด์ญี่ปุ่นไว้
