วันที่ 23 พ.ย. 2564 สภาองค์กรของผู้บริโภค จัดแถลงข่าว ‘ทรู’ ควบรวม ‘ดีแทค’ กระทบผู้บริโภค โดยยืนยันจุดยืนของสภาองค์กรของผู้บริโภคว่าไม่เห็นด้วยต่อกรณีดังกล่าว เนื่องจากมองว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการใช้บริการเครือข่ายมือถือน้อยลง
พร้อมเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กสทช. ชี้แจงสร้างความเข้าใจต่อประชาชนว่าการควบรวมดังกล่าวจะทำให้มีอำนาจเหนือตลาดหรือไม่ และควรยับยั้งไม่ให้เกิดขึ้น
‘บุญยืน ศิริธรรม’ ประธานสภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) กล่าวว่า เราไม่ได้ขัดขวางการเจริญเติบโตหรือการร่วมทุนของธุรกิจใดๆ แต่เราในฐานะผู้บริโภคก็มีจุดยืนว่าการควบรวมจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในเรื่องทางเลือกหรือไม่
“จะมีหลักประกันอะไรว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้จะไม่ไปลิดรอนทางเลือกของผู้บริโภค ไม่เอาเปรียบผู้บริโภคมากกว่าปัจจุบัน ทางเลือกของผู้บริโภคควรจะมีมากขึ้น ไม่ใช่น้อยลง ซึ่งการมีทางเลือกน้อยลงจะถูกเอาเปรียบหรือไม่”
‘สารี อ๋องสมหวัง’ เลขาธิการ สอบ. กล่าวว่า สอบ.ชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยต่อการควบรวมในครั้งนี้ เพราะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลง
ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลการแข่งขัน การกำกับดูแลกิจการด้านโทรคมนาคม ต้องออกมาให้ข้อมูลให้ชัดเจนว่ากรณีนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง รวมถึงการควบรวมครั้งนี้ที่ทำให้ทรูและดีแทคครองส่วนแบ่งในตลาด (ในแง่ของจำนวนผู้ใช้งาน) 52% ถือว่ามีอำนาจเหนือตลาดหรือไม่
“กสทช. ควรกำกับให้มีการแข่งขันกันมากขึ้น ไม่ใช่กำกับให้มีการแข่งขันกันน้อยลง และควรเปิดโอกาสให้ใช้คลื่นในราคาพิเศษเพื่อให้เกิดผู้ให้บริการรายใหม่ๆ”
‘สารี’ กล่าวอีกว่า การคุ้มครองผู้บริโภคไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อทุน สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้จริงๆ ทรูและดีแทคสามารถใช้เงื่อนไขของประกาศ กสทช. เป็นพันธมิตรกันโดยไม่เป็นอุปสรรคต่อการแข่งขัน เช่น ประกาศ กสทช. ในเรื่องการให้ใช้โครงข่ายร่วมกัน จะทำให้ลดต้นทุน แต่เราไม่เห็นความร่วมมือในลักษณะนี้ มีแต่การควบรวมซึ่งเป็นการกีดกันเจ้าอื่น
“สภาองค์กรของผู้บริโภคจะเร่งทำข้อเสนอไปถึง กสทช. ว่าควรจะสั่งห้ามการควบรวมกิจการที่ทำให้เกิดอำนาจเหนือตลาด นอกจากนี้จะทำข้อเสนอถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเรื่องผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อผู้บริโภคจากดีลนี้ รวมถึง กขค. หรือคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าด้วย”
ขณะที่ ‘พวงทอง ว่องไว’ อนุกรรมการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สอบ. กล่าวว่า แม้ปัจจุบันจะเป็นการร่วมมือระหว่างผู้ถือหุ้นคือซีพีและเทเลนอร์ ยังไม่มีการควบควมบริษัทระหว่างทรูและดีแทค แต่ถ้าเกิดการควบรวมจริง จะส่งผลกระทบกับผู้บริโภคอย่างชัดเจน
เนื่องจากจะรวมเหลือบริษัทเดียว ทำให้การแข่งขันในตลาดเหลือน้อยมาก จากปัจจุบันที่น้อยอยู่แล้ว ผู้บริโภคอาจจะไม่มีทางเลือกในการขอใช้บริการ
มากไปกว่านั้น หากควบรวมแล้วเหลือเพียง 2 ผู้เล่นในตลาด แล้ว 2 บริษัทนี้คิดค่าบริการสูงขึ้น หรือให้บริการแบบเอาเปรียบผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบแน่นอน ทำให้เราในฐานะตัวแทนผู้บริโภคไม่เห็นด้วยต่อการควบรวมนี้
ด้าน ‘ชลดา บุญเกษม’ อนุกรรมการด้านการสื่อสารโทรคมนาคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ สอบ. กล่าวเสริมว่า นอกจากเรื่องการแข่งขันแล้ว อีกประเด็นสำคัญคือเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล เนื่องจากมีผู้บริโภคจำนวนมากถูกหลอกเพราะถูกเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“เรามองว่าหากมีการควบรวม ประเด็นนี้ก็อาจมีผลกระทบต่อผู้บริโภคอย่างมากแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ที่อาจนำข้อมูลของผู้บริโภคไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะให้มีการควบรวมในครั้งนี้”
