เจ้าของดีแทค เลือกสิงคโปร์ตั้ง ‘เทเลนอร์เอเชีย’ ดูภาพรวมธุรกิจในไทยและมาเลเซียหลังควบรวม และยังดูภาพรวมธุรกิจในบังกลาเทศ และปากีสถานด้วย
กลุ่มเทเลนอร์ บริษัทโทรคมนาคมเจ้าของดีแทค ขยายธุรกิจ ประกาศจัดตั้ง “เทเลนอร์เอเชีย” เป็นองค์กรธุรกิจที่มีอิสระในการบริหารงานมากขึ้น เลือกสิงคโปร์เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ โดยเทเลนอร์เอเชียจะมีอำนาจเต็มในการดำเนินงานของธุรกิจในประเทศไทย บังกลาเทศ มาเลเซีย และปากีสถาน
ตลาดในแต่ละประเทศจะมีทีมงานบริหารการลงทุน (Investment Management teams) เข้าไปดูแล ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการสินทรัพย์และเป็นตัวแทนดูแลผลประโยชน์ของเทเลนอร์ในฐานะกรรมการของแต่ละประเทศ
โดยทีมงานในสิงคโปร์เน้นการทำงานด้านการเงิน การปฏิบัติการ การบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลกิจการ การบริหารงานบุคคล
ปีที่แล้ว เทเลนอร์ เอเชีย ได้ลงนามในข้อตกลงควบรวมกิจการในประเทศมาเลเซียและไทย (การควบรวมทรู-ดีแทค) ซึ่งเมื่อการควบรวมกิจการของทั้งสองแห่งเสร็จสิ้น ธุรกิจของเทเลนอร์เอเชียจะประกอบด้วยบริษัทโทรคมนาคมที่มีขนาดใหญ่ในตลาดเอเชียถึงสามแห่ง
นายเยอเก้น โรสทริป, EVP and Head of Telenor Asia เทเลนอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า “ทีมที่แข็งแกร่งของเราที่สำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์พร้อมจะสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจที่เราเข้าไปดำเนินงานและแสวงหาโอกาสในการสร้างพันธมิตรในระดับโครงสร้างใหม่ๆ รวมถึงการทำ IPO ที่มีศักยภาพในอนาคต จากผลการสำรวจที่จัดทำโดยกลุ่มเทเลนอร์เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ใช้งาน 8,000 คนในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 93% กล่าวว่าการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตบนมือถือช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของพวกเขา”
สำหรับเป้าหมายใหญ่ของ เทเลนอร์ เอเชีย ตอนนี้มีสามข้อหลักๆ
- เพิ่มการใช้งานมือถือและการใช้ดาต้าในบังกลาเทศและปากีสถาน โดยตอนนี้มีคนกว่า 150 ล้านรายในสองประเทศนี้ ที่ยังไม่มีอุปกรณ์มือถือ และ 50% ของฐานลูกค้าปัจจุบันสมัครใช้บริการเสียงเท่านั้น
- ขยายตลาดกลุ่มผู้ประกอบการ B2B (Business to Business) ส่วนแบ่งรายได้ในปัจจุบันของเทเลนอร์เอเชียจากส่วนนี้อยู่ที่ประมาณ 5% โดยมีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยในช่วงเกิดโรคระบาดที่ผ่านมาภาพรวมของตลาดโทรคมนาคมในส่วนนี้ลดลง แต่รายได้ B2B ของเทเลนอร์เอเชียเพิ่มขึ้นประมาณ 10%
- มุ่งสู่การเป็นมากกว่าเป็นผู้ให้บริการเชื่อมต่อมือถือ โดยจะเพิ่มบริการสำหรับลูกค้าในด้านต่างๆ มากขึ้น เช่น ประกันภัย ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และบริการเกมต่างๆ
ปัจจุบัน นอกเหนือจากการควบรวมในไทยและมาเลเซียแล้ว เทเลนอร์ ยังถอนตัวออกจากเมียนมาร์ ซึ่งมาจากแรงบีบคั้นของรัฐบาลทหารที่ทวีเพิ่มขึ้นหลังรัฐประหาร โดยขายหุ้นทั้งหมดในพม่าให้ M1 Group ซึ่งมีความสัมพันธ์กับกองทัพเมียนมาร์อยู่แล้ว
ส่วนการควบรวมในไทยที่ดูยืดเยื้อมานานก็ดูจะได้ข้อสรุปแล้วว่าสามารถควบรวมได้ โดยจะเกิดเป็นบริษัทใหม่เข้ามาดำเนินการ แต่มีเงื่อนไขควบรวมที่การควบคุมราคา ต้องทำการตลาดแบบแยกแบรนด์ เป็นต้น สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ https://cms.workpointtoday.com/effects-after-true-dtac-merge/










