Tencent ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีน ประกาศปิดตัว Huanhe แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ของตัวเอง หลังเปิดมาได้เพียง 1 ปี จากยอดขายที่หล่นฮวบและความไม่แน่นอนของรัฐบาลจีน
Tencent ระบุว่า การออกจากตลาด Non-Fungible Token (NFT) เป็นการเปลี่ยนแปลงในกลยุทธ์ เพื่อกลับไปมุ่งเน้นที่ธุรกิจหลักของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นแอปแชทอย่าง WeChat, แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และเกมออนไลน์ต่างๆ
โดย NFT เป็นผลงานดิจิทัลในรูปแบบ “สินทรัพย์เหรียญดิจิทัล” บนโลกออนไลน์ด้วยระบบ “Blockchain” แต่ในจีน NFT ถูกเรียกว่าเป็น “ของสะสมดิจิทัล” แทนเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของปักกิ่ง
ในช่วงแรกๆ มีผู้สนใจซื้อ NFT ของ Tencent จำนวนมาก แต่ในระยะหลังๆ ยอดขายกลับชะลอตัวลงมากโดยเฉพาะในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทำให้มีรุ่นลิมิเตดหลายรุ่นขายไม่ออก
ประกอบกับความเข้มงวดและความไม่แน่นอนของรัฐบาลจีนต่อ NFT และคริปโทเคอร์เรนซี ที่ทำให้ Tencent ต้องปิดตลาดซื้อขายนี้ลง
โดยในปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนต่อต้านการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลได้สำเร็จ ทำให้ NFT ในจีนถูกซื้อขายด้วยเงิน Fiat เท่านั้น และไม่สามารถขายต่อเพื่อทำกำไรได้
หลังจากการประกาศ หุ้นของ Tencent ที่จดทะเบียนในฮ่องกงก็ร่วงลงทันที 0.3% อยู่ที่ 299.6 ดอลลาร์ฮ่องกง เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ปัจจุบัน บริษัทติดป้าย sold out สำหรับ NFT ทั้งหมดที่วางจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม แต่ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าชมนิทรรศการศิลปะแบบ AR ด้วยเทคโนโลยีโลกเสมือนได้อยู่เหมือนเดิม
ทั้งนี้ แอป Huanhe จะยังคงอยู่ แต่จะอนุญาตให้ลูกค้าปัจจุบันสามารถแสดง ดาวน์โหลด และแชร์ NFT ที่พวกเขาเป็นเจ้าของอยู่แล้วเท่านั้น
