สภาพัฒน์ อ้างอิงตัวเลข ททท. ต้องใช้เวลาอีก 5 ปี ‘ท่องเที่ยวไทย’ จึงจะฟื้นคืนสู่ปกติ แม้ประเทศไทยจะพึ่งพิงการท่องเที่ยวกว่า 20% ของจีดีพี และแรงงานกว่า 7 ล้านคนอาจได้รับผลกระทบ ต้องย้ายอุตสาหกรรมภายใน 2 ปี
วันที่ 25 พ.ค. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่าจากการแถลงข่าวของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ยืนยันว่า ภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยจะไม่สามารถกลับสู่สภาวะปกติได้จนกว่าจะถึงปี 2026 (พ.ศ. 2569) หรือใช้เวลาอีกอย่างน้อย 5 ปี โดยสภาพัฒน์อ้างอิงตัวเลขจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
โดยสัญญาณดังกล่าวส่งผลเป็น ‘ลบ’ ต่อประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวกว่า 20% ของ GDP หรือเรียกได้ว่าพึ่งพาการท่องเที่ยวมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ทำให้นักวิเคราะห์บางคนมองว่าภายใน 2 ปีที่กำลังจะถึงนี้ การฟื้นตัวที่ล่าช้าของภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยจะส่งผลกระทบถึงแรงงานมากกว่า 7 ล้านคน ทำให้บางส่วนจะต้องหลุดออกจากตำแหน่งงานและหางานใหม่ในสายอาชีพอื่นๆ นอกภาคการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ ในปี 2562 ก่อนเกิดโรคระบาดประเทศไทยเคยเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 40 ล้านคน มีรายได้เข้าประเทศกว่า 2 ล้านล้านบาท โดยประเทศในอาเซียนส่วนใหญ่ที่ปิดพรมแดนไปตั้งแต่เดือน มี.ค. ปีที่แล้ว มีความพยายามที่จะเปิดจุดหมายปลายทางบางแห่งสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยการเร่งฉีดวัคซีน ด้วยความคาดหวังทางเศรษฐกิจ
สำหรับประเทศไทยก็มี ‘ภูเก็ต’ ที่เตรียมจะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือน ก.ค. นี้ ก่อนจะเปิดอีก 10 จุดหมายปลายทางในเดือน ต.ค. โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทย 5 แสนคน หรือน้อยกว่าเสี้ยวของ 6.7 ล้านคนที่เดินทางมาก่อนเดือน มี.ค. ปีที่แล้ว
ปัจจุบัน เศรษฐกิจไทยประสบกับภาวะหดตัวติดต่อกันมาแล้ว 5 ไตรมาส และมีแนวโน้มจะดำเนินต่อไปในเดือน เม.ย. – มิ.ย. เนื่องจากกำลังต่อสู้กับโควิด-19 อีกระลอก ปัจจุบันมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก มีผู้ว่างงาน 758,000 คนหรือคิดเป็น 1.96% สูงสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2009 หรือเมื่อ 10 กว่าปีก่อน และอาจทำให้นักศึกษาจบใหม่มีโอกาสหางานได้น้อยลง
ที่มา : บลูมเบิร์ก










