บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดตัวบริการส่งด่วน “EMS JUMBO” ตอบเทรนด์การซื้อขายสิ่งของขนาดพิเศษ ส่งใหญ่ ส่งหนักสูงสุดได้ถึง 200 กิโลกรัม ค่าบริการเริ่มต้นที่ 200-1,800 บาท
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ความต้องการในการขนส่งสิ่งของ โดยเฉพาะมาตรฐานการส่งแบบด่วน (EMS) ยังคงเพิ่มปริมาณมากขึ้นในประเทศไทย เนื่องด้วยการแข่งขันทางธุรกิจ ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลง และการพัฒนาเทคโนโลยีของผู้ให้บริการที่ทำให้สิ่งของต่าง ๆ ไปถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วขึ้น
จากความต้องการดังกล่าวไปรษณีย์ไทยจึงได้มุ่งยกระดับ EMS ให้เป็นบริการส่งด่วนที่มีความครบวงจร โดยเฉพาะความครอบคลุมประเภทและขนาดการส่งสิ่งของ เนื่องจากขณะนี้พฤติกรรมการซื้อขายสินค้าที่มีช่องทางที่หลากหลาย ได้ทำให้บริการรับฝาก-นำจ่ายสิ่งของไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ในรูปแบบของพัสดุภัณฑ์เพียงอย่างเดียว
“เทรนด์ในการเลือกใช้บริการขนส่งสิ่งของปัจจุบัน ผู้ซื้อของหลายรายมีการเลือกซื้อสินค้าขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากกระแสการซื้อของตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ออกกำลังกาย หรือแม้แต่อุปกรณ์ครัวที่มีร้านค้ากลุ่มนี้ให้บริการผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างแพร่หลาย และเป็นอานิสงส์ให้ความต้องการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และหนักมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ทั้งนี้ จากการดำเนินงานด้านการขนส่งสินค้าของไปรษณีย์ไทย พบว่า ประเภทของสิ่งของขนาดใหญ่และหนักที่มีการฝากส่ง 10 อันดับแรกในปี 2563-2565 ได้แก่
- กลุ่มสิ่งของที่คิดค่าบริการตามพิกัดน้ำหนัก (30 – 200 กิโลกรัม)
- จักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 150 CC. ที่ไม่ใช่รูปทรงบิ๊กไบค์
- Roll Pallet บรรจุของสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา และผู้ประกอบการ OTOP
- จักรยาน / รถจักรยานพับได้ใส่กล่อง
- รถจักรยานไฟฟ้า / รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า
- ตู้เย็นขนาดไม่เกิน 12 คิว
- จักรยานยนต์ขนาดเครื่องยนต์เกิน 150 แต่ไม่เกิน 400 CC. ที่ไม่ใช่รูปทรง บิ๊กไบค์
- รถแบตเตอรี่สำหรับเด็ก รถสามล้อโยกคนพิการ วีลแชร์
- คอมพิวเตอร์และชุดอุปกรณ์
- เครื่องซักผ้าทั้งประเภทถังคู่ ฝาบน และฝาหน้า
ดร.ดนันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไปรษณีย์ไทยได้นำศักยภาพ EMS ภายใต้แนวคิด “ส่งใหญ่ ส่งยุ่ง ส่งยาก ส่งยา และส่งเย็น” มาใช้ในตลาดส่งของหนัก ของใหญ่ให้เพิ่มมากขึ้น
โดยบริการ EMS JUMBO ให้บริการด้วยคอนเซ็ปต์งานช้างยังไหว ส่งหนัก ส่งใหญ่แค่ไหนก็เรื่องหมู ๆ โดยผู้ใช้บริการสามารถส่งของหนัก ของใหญ่จุใจตั้งแต่ไซส์ 30 – 200 กิโลกรัม มาตรฐานการนำจ่ายที่รวดเร็ว 2 – 4 วัน
อัตราค่าบริการคิดราคา 2 รูปแบบ ทั้งแบบคำนวณตามน้ำหนักจริง เริ่มต้น 30 กิโลกรัมแรก ราคา 200 บาท เฉลี่ยเพียง 6 บาท / กิโลกรัม ขนาดสิ่งของ กว้าง+ยาว+สูง รวมกันไม่เกิน 600 เซนติเมตร
และอัตราค่าบริการสำหรับสินค้าสำเร็จรูป อาทิ ประเภทกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาท ยานพาหนะ ราคาเริ่มต้นที่ 600 บาท เฟอร์นิเจอร์ ราคาเริ่มต้นที่ 300 บาท
ส่วนระยะทางในการนำจ่ายสิ่งของยังคงครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งพื้นที่เกาะ พื้นที่ห่างไกลใน 77 จังหวัด อีกทั้งยังมีการชดใช้ค่าเสียหายในกรณีสูญหาย/ เสียหายระหว่างการจัดส่งทางไปรษณีย์ตามมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง สูงสุดชิ้นละ 5,000 บาท และสามารถซื้อประกันเพื่อรับวงเงินชดใช้เพิ่มได้สูงสุดถึง 200,000 บาท
“การส่งสิ่งของเฉพาะทาง หรือมีรูปแบบพิเศษเป็นสิ่งที่ไปรษณีย์ไทยมีความชำนาญมาอย่างยาวนาน ซึ่งจะเห็นได้จากทั้งบริการส่งยาจากโรงพยาบาล การส่งสินค้าควบคุณอุณหภูมิ FUZE Post หรือแม้กระทั่งการส่งในพื้นที่ที่เข้าถึงลำบาก
โดยการให้บริการเหล่านี้ยังเป็นการสร้างความได้เปรียบจากตลาดที่แข่งขันกันด้วยราคา เนื่องจากผู้ใช้บริการในปัจจุบันได้มองหาความแตกต่าง คุณภาพ และโซลูชันที่ครอบคลุมจากธุรกิจขนส่ง โดยเฉพาะใน 4 เทรนด์ที่กำลังเติบโตและจะกลายเป็นโอกาส ได้แก่ เทรนด์การให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ เทรนด์การให้บริการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ เทรนด์การบริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร และเทรนด์การให้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิแบบด่วนทั้งสินค้าแบบแช่เย็นและแช่แข็ง”
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยมีสิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับสมาชิก POST Family โดยมอบส่วนลดค่าส่งให้สูงสุดถึง 15% ในบริการดังกล่าว ตั้งแต่วันนี้ถึง 20 มีนาคม 2566










