Dyson เผยผลโครงการวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพอากาศระดับโลก (Global Connected Air Quality Data project) โดยศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลคุณภาพอากาศภายในอาคาร ที่รวบรวมโดยเครื่องฟอกอากาศ Dyson กว่า 2.5 ล้านเครื่อง ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2566 เพื่อรวบรวมข้อมูลภูมิทัศน์ของคุณภาพอากาศจริงในบ้านของผู้คนทั่วโลก
โครงการนี้เป็นการศึกษาเกี่ยวกับคุณภาพอากาศภายในพื้นที่ปิดที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ผลสำรวจพบว่าค่าเฉลี่ยต่อเดือนของระดับ PM2.5 ภายในอาคารของทุกประเทศ เกินค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลกแนะนำอย่างน้อย 6 เดือนต่อปี
จากผลสำรวจของ Dyson ในประเทศไทย ค่าเฉลี่ยต่อปีของระดับ PM2.5 ภายในอาคารอยู่ที่ 14.70 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าค่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกเกือบ 200% ทำให้ไทยเป็นประเทศที่มีค่า PM2.5 ภายในอาคารสูงสุด ลำดับที่ 11 ของโลกและลำดับที่ 6 ของภูมิภาคเอเชีย
ค่า PM2.5 ภายนอกอาคารโดยเฉลี่ยต่อปีของประเทศไทยอยู่ที่ 22.36 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานของ WHO เกือบ 350%
ช่วงเวลาที่พบ PM2.5 อาคารในไทยจะอยู่ระหว่างหกโมงเย็นถึงเที่ยงคืน
เมื่อนำระดับ PM2.5 โดยเฉลี่ยของแต่ละประเทศมาจัดอันดับ พบว่า อินเดีย จีน และตุรกี ครองตำแหน่ง 3 อันดับแรกตามลำดับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อันดับ 4 เกาหลีใต้อันดับ 5 และมีอีก 4 ประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยติดอยู่ใน 15 อันดับแรกของประเทศที่มีคุณภาพอากาศภายในครัวเรือนแย่ที่สุดในโลก
โดยการศึกษานี้เก็บข้อมูลทั้งขนาดของเม็ดฝุ่น ชนิดของก๊าซและอนุภาคมลพิษต่างๆ ตลอดจนวิเคราะห์แนวโน้มตามวัน เดือน ฤดู และตลอดทั้งปี ข้อมูลทั้งหมดเก็บรวบรวมมาจากเครื่องฟอกอากาศ Dyson ที่เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน MyDyson ปริมาณข้อมูลที่รวบรวมได้มากกว่าห้าแสนล้านชุดข้อมูล สามารถสะท้อนภาพรวมของสถานการณ์คุณภาพอากาศภายในครัวเรือนของเมืองใหญ่และประเทศต่างๆ ทั่วโลก
จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงคุณภาพอากาศภายในอาคารในหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก
“ข้อมูลคุณภาพอากาศที่รวบรวมโดย Dyson ช่วยให้เข้าใจปัญหาที่แท้จริงของมลพิษทางอากาศภายในอาคารทั่วโลก ข้อมูลนี้จะถูกแบ่งปันผ่านแอปฯ MyDyson ในแบบเรียลไทม์และแบบรายงานประจำเดือน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เครื่องฟอกอากาศมีความเข้าใจคุณภาพอากาศในบ้านของตนได้ดีขึ้น” Matt Jennings วิศวกรอำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศของ Dyson กล่าว










