ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตและการทำงานของเราอย่างรวดเร็ว มุมมองเกี่ยวกับอนาคตของคนทำงานก็เริ่มแตกออกเป็นสองทาง บ้างก็มองว่า AI อาจจะเข้ามา แทนที่มนุษย์ ในหลายตำแหน่งงาน ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการว่างงานและทักษะที่ล้าสมัย ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งก็มอง AI เป็นเครื่องมือในการทำงานมากขึ้น
[ คนรุ่นใหม่ใช้ AI ทำงานเร็วขึ้น มาแบ่งเบาภาระได้มากขึ้น ]
รายงานวิจัย Work Trend Index ประจำปี 2025 ของไมโครซอฟท์ เผยอินไซต์ ทิศทางการปรับเปลี่ยนองค์กรในยุค AI มุมมองและโครงสร้างการทำงานรูปแบบใหม่ไว้ว่า
-
-
-
-
- 68% ได้นำ AI เข้ามาเปลี่ยนระบบงานบางส่วนให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติแล้ว ไปจนถึงระยะยาว ที่เราอาจได้เห็นโครงสร้าง องค์กร และเส้นทางในอาชีพการงานเปลี่ยนแปลงไป
- 83% ของผู้บริหารมองว่าพนักงานรุ่นใหม่จะมีโอกาสได้ทำงานเชิงกลยุทธ์และการวางแผนเร็วขึ้นหากมี AI เข้ามาแบ่งเบาภาระ
-
-
-
ขณะที่ในอินไซต์เกี่ยวกับการทำงานของพนักงานตอนนี้มีหลายอย่างที่ต้องเผชิญ เช่น
-
-
-
-
- 40% ของผู้ใช้งาน Microsoft 365 ออนไลน์ตั้งแต่ 06:00 น. เพื่อตรวจสอบอีเมลและจัดลำดับความสำคัญของวัน
- พนักงานโดยเฉลี่ยได้รับอีเมล 117 ฉบับต่อวัน ส่วนใหญ่จะอ่านผ่านๆ ในเวลาน้อยกว่า 60 วินาที
- 50% ของการประชุมทั้งหมดเกิดขึ้นช่วง 09:00-11:00 น. และ 13:00-15:00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พนักงานหลายคนมีเอนเนอจี้ในการทำงานสุดๆ แต่กลับต้องมาประชุม ทำให้ไม่ค่อยมีสมาธิการทำงาน
- ช่วง 11:00 น. คิดเป็น 54% ของผู้ใช้งานมีการใช้งานข้อความสูงที่สุด พูดง่ายๆ ว่าเป็นชั่วโมงที่วุ่นวายที่สุดของวัน มีข้อความเรียลไทม์ การประชุมที่กำหนดเวลาไว้ และการสลับแอปพลิเคชันอย่างต่อเนื่อง ทำให้การจดจ่อกับงานใดงานหนึ่งแทบเป็นไปไม่ได้
- หลังเลิกงานพนักงานโดยเฉลี่ยส่งหรือรับข้อความมากกว่า 50 ข้อความ
- 20% ของพนักงานที่ทำงานในวันหยุดสุดสัปดาห์จะตรวจสอบอีเมลก่อนเที่ยงในวันเสาร์และวันอาทิตย์ และมากกว่า 5% กลับมาใช้อีเมลในเย็นวันอาทิตย์ (18:00 น. เป็นต้นไป) ก่อนจะเริ่มกลับมาทำงานใหม่อีกครั้งในวันจันทร์
-
-
-
[ พนักงานไทยหมดแรงจะเคลียร์งานในมือ แต่ผู้บริหารอยากให้ Productive กว่านี้ ]
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่บอกว่า 88% ของพนักงานไทยไม่มีแรงและเวลาเพียงพอที่จะรับมือกับงานในมือ โดยสถิติการใช้งานเครื่องมือและบริการต่างๆ บนแพลตฟอร์ม Microsoft 365 ระบุว่าคนทำงานทั่วโลกจะได้รับข้อความแจ้งเตือนเรื่องต่างๆ ทุก 2 นาทีโดยเฉลี่ย หรือคิดเป็น 275 ครั้งในแต่ละวัน
ขณะที่ความคาดหวังกลับส่วนทาง เพราะ 75% ของผู้บริหารในไทยต้องการให้องค์กร Productive มากขึ้น ซึ่งค่าเฉลี่ยนี้ก็เกินค่าเฉลี่ยโลกที่คาดหวังเพียง 53% เท่านั้น

ด้าน ‘ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ผู้บริหารส่วนใหญ่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่คนทำงานมีแรงและเวลาที่จำกัด ระบบ AI หรือ Agentic AI ที่สามารถทำงานได้แบบอัตโนมัติจึงเป็นทรัพยากรที่มีค่ามหาศาล พร้อมให้องค์กรนำไปปรับใช้ในรูปแบบที่เหมาะสม
ทีมวิจัยของไมโครซอฟท์ได้แนะแนวทางสำหรับองค์กรที่ต้องการปรับทิศทางเพื่อมุ่งสู่สถานะ Frontier Firm ไว้ดังนี้
-
-
-
- ใช้กฎ 80/20 แบ่งงานให้ AI จากกฎที่ว่า 80% ของผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น มาจากตัวแปรหรือเนื้องานเพียง 20% องค์กรในกลุ่ม Frontier Firm จึงอาจยกเนื้องานอีก 80% ที่สร้างผลลัพธ์ได้เพียง 20% นี้ไปให้ AI และระบบอัตโนมัติต่างๆ รับมือแทน
- ปรับมุมมองสู่ผังเนื้องาน เมื่อ AI สามารถทำงานได้โดยไม่จำกัดความรู้ความสามารถอยู่ในแผนกหรือด้านใดด้านหนึ่ง เส้นทางการติดต่อประสานงานต่างๆ จึงอาจเปลี่ยนไปในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดรอยต่อระหว่างแผนกลง เสริมความคล่องตัวให้องค์กรอีกระดับ
- บริหาร AI ให้เหมือนบริหารพนักงาน AI ที่สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติ สามารถเรียนรู้ ยกระดับความสามารถ เสนอความคิดเห็น และเข้ารับการประเมินผลงานได้เช่นเดียวกับพนักงานที่เป็นมนุษย์
-
-
โดยอาจเริ่มจากการปรับคำสั่งพื้นฐาน เพิ่มชุดข้อมูลที่ AI สามารถเข้าถึงได้ หรือแม้แต่การแลกเปลี่ยนความเห็นกับ AI โดยตรง ซึ่งจะเป็นรูปแบบการทำงานในอนาคตที่มนุษย์และ AI Agent ทำงานร่วมกันเป็นทีม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง










