หลัง ‘แจ็คสัน หวัง’ ไอดอลชื่อดังวง GOT7 ไปกินอาหารในร้านถูกและดี ซึ่งเป็นร้านอาหารตามสั่งในฟู้ดแลนด์ แล้วเอ่ยปากชมเมนูข้าวผัดอเมริกันและซุปข้าวโพด จนเกิดปรากฏการณ์ร้านแตก ส่งผลให้ชื่อของซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง ‘ฟู้ดแลนด์’ เป็นที่พูดถึงมากขึ้น
แต่รู้หรือไม่ว่าฟู้ดแลนด์เป็นซูเปอร์มาร์เก็ต 24 ชั่วโมงรายแรกของไทยที่ดำเนินกิจการมากว่า 50 ปีแล้ว และร้านอาหารในฟู้ดแลนด์ ก็ครองใจผู้คนหลายต่อหลายคนมานานแล้วเช่นกัน
เส้นทางของ ‘ฟู้ดแลนด์’ เป็นไปเป็นมาอย่างไร TODAY Bizview ชวนย้อนอ่านเรื่องราวของซูเปอร์มาร์เก็ตวัยเก๋ารายนี้ไปด้วยกัน
จุดกำเนิดของฟู้ดแลนด์เริ่มต้นจาก ‘สมศักดิ์ ตีระพัฒนกุล’ หรือแฟรงค์ ชาวจีนผู้เกิดในจีนแผ่นดินใหญ่ เติบโตในฮ่องกง และย้ายมาปักหลักในประเทศไทยหลังจากจบการศึกษาสูงสุดที่โรงเรียนเซนต์สตีเฟ่นส์ ฮ่องกง
ก่อนจะเข้ามาสู่ธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ต สมศักดิ์ผ่านการทำงานต่างๆ มามากมายกับบริษัทข้ามชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนบิลให้ลูกค้า หรือการขายเวชภัณฑ์
ช่วงนั้นเองที่ทำให้เขามีโอกาสเดินทางไปหลายประเทศ ทำให้มีโอกาสได้สังเกตและหาโอกาสทางธุรกิจควบคู่ไปกับการทำงาน
15 ปีกับการทำงานเป็นลูกจ้างให้บริษัทข้ามชาติ สมศักดิ์เริ่มรู้สึกเบื่อ จึงลาออกมาทำธุรกิจของตัวเอง ซึ่งด้วยความที่เป็นชอบอะไรใหม่ๆ และได้ไปศึกษาธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในต่างประเทศ จึงเห็นโอกาสทำธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตในไทย
เพราะตอนนั้นคู่แข่งก็มีไม่มาก มีเพียง ‘เดลี่ เลน’ ในย่านชิดลมเท่านั้นที่เป็นค้าปลีกในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ต
กระทั่งปี พ.ศ. 2515 สมศักดิ์ที่ตกลงปลงใจแน่แล้วว่าจะทำซูเปอร์มาร์เก็ตในไทย เขาและผู้ร่วมทุนอีก 7 คน จึงตัดสินใจทุ่มงบลงทุน 3 ล้านบาท เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตสาขาแรกภายใต้ชื่อ ‘เพลินจิต ซูเปอร์มาร์เก็ต’ ซึ่งตั้งอยู่ในเพลินจิตอาเขต พื้นที่ราวๆ 400 ตารางเมตร
จากนั้น 6 เดือนต่อมา สมศักดิ์และผู้ร่วมทุนอีก 2 คน เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งที่ 2 ชื่อ ‘พัฒน์พงษ์ ซูเปอร์มาร์เก็ต’ ซึ่งมีขนาด 200 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในย่านพัฒน์พงษ์
โดยจุดเด่นของซูเปอร์มาร์เก็ตทั้ง 2 แห่ง ก็คือ ‘ให้บริการ 24 ชั่วโมง’
แม้ช่วง 2-3 ปีแรกที่ให้บริการจะไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากคนไทยยังไม่คุ้นชินกับซูเปอร์มาร์เก็ตที่ติดแอร์ และประตูปิด แต่สมศักดิ์ก็ยังสู้ต่อเพราะเห็นว่ามีโอกาส เขาจึงตัดสินใจเปิดให้บริการสาขาที่ 3 ในย่านเอกมัย ด้วยการไปซื้อกิจการซูเปอร์มาร์เก็ต ‘เดลี่ เลน’
แต่ที่ต่างไปจากคราวก่อนๆ คือ ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เปิดใหม่นี้ใช้ชื่อว่า ‘ฟู้ดแลนด์’ เป็นสาขาแรก ก่อนจะทยอยเปลี่ยนชื่อของซูเปอร์มาร์เก็ตทั้ง 2 อันก่อนหน้าให้เป็นชื่อฟู้ดแลนด์ด้วย เพื่อความคล่องตัวในการบริหาร
เนื่องจากซูเปอร์มาร์เก็ต 2 อันก่อนหน้านี้ใช้ชื่อต่างกัน อยู่ภายใต้บริษัทคนละบริษัทกัน ทำให้สมศักดิ์ทำงานได้ลำบากมาก และการยุบรวมกันก็ทำให้เขาต่อรองซื้อสินค้ามาวางขายได้ง่ายกว่า
ในช่วงที่เปิดให้บริการสาขาแรกมา 2 ปี การแข่งขันเริ่มรุนแรงขึ้น สมศักดิ์จึงคิดว่าต้องหาคนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจค้าปลีกเข้ามาช่วย เขามองว่าตัวเองไม่มีความรู้มากพอ จึงไปจ้างชาวฮ่องกงที่อยู่ในวงการค้าปลีกมา 20 ปีมาร่วมทัพ
และนั่นก็ดูเหมือนจะได้ผลที่ดี เพราะจากซูเปอร์มาร์เก็ตในอาคารห้องแถว ฟู้ดแลนด์สามารถขยายอาณาจักรจนมีสาขาขนาดใหญ่ในรูปแบบสแตนด์อะโลนได้
แม้ค้าปลีกจะมีคู่แข่งผุดขึ้นมากมาย แต่สมศักดิ์บอกว่าจุดแข็งของฟู้ดแลนด์ที่แตกต่างจากคนอื่นในตลาด คือสินค้า โดยเฉพาะในกลุ่มอาหาร ที่นอกจากจะมีให้เลือกหลากหลายแล้ว ยังมีการพิถีพิถันใส่ใจในเรื่องคุณภาพอย่างแท้จริง
ยกตัวอย่างคือ เนื้อวัว ก่อนนำมาขาย ฟู้ดแลนด์จะแช่ห้องเย็นไว้ 15 วัน เพื่อให้เนื้อไม่เหนียว พอเข้าสู่วันที่ 16 ค่อยนำมาขาย เป็นต้น
ส่วน ‘ร้านถูกและดี’ ร้านอาหารตามสั่งซึ่งเป็นอีกแม็กเน็ตของฟู้ดแลนด์ เปิดมาพร้อมๆ กับซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรกของเครืออย่างเพลินจิต ซูเปอร์มาร์เก็ต
ในยุคแรกนั้น ร้านถูกและดีมีมุม Coffee Shop ที่มีจุดประสงค์หลักคือให้คุณสามีมานั่งรอภรรยาระหว่างช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้าน
ก่อนที่ใน 6-7 ปีต่อมา หรือราวปี 2521-2522 ร้านถูกและดีจะถูกต่อยอดอย่างจริงจัง ด้วยการจัดตั้งบริษัท ถูกและดี จำกัด ขึ้นมาดูแลธุรกิจนี้โดยเฉพาะ
โดยร้านมีคอนเซ็ปต์ว่า “ปรุงสดใหม่ ที่คุ้มค่า คุ้มราคา สามารถรับประทานได้ทุกวัน” มีจุดเด่นในการหมุนเวียนวัตถุดิบภายในซูเปอร์มาร์เก็ตได้เป็นเมนูอาหารกว่า 100 เมนู มีราคาตั้งแต่ 70 ไปจนถึงกว่า 200 บาท
ที่น่าสนใจคือร้านถูกและดียังมีบริการ ‘ปรุงอาหารตามความต้องการ’ คือลูกค้าสามารถซื้อวัตถุดิบในฟู้ดแลนด์แล้วนำมาสั่งปรุงได้ คิดค่าบริการเริ่มต้น 100 บาท ถือเป็นอีกจุดเด่นที่สร้างความยั่งยืน และช่วยลดปริมาณขยะอาหาร หรือ Food Waste จากการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ทุกวันนี้ร้านถูกและดีมีอยู่ 23 สาขา เท่ากับฟู้ดแลนด์ มีการขยายธุรกิจทำไส้กรอกของตัวเองในแบรนด์ Butcher’s choice รวมถึงเบเกอรี่ของตัวเองคือ Oven Fresh นอกจากนี้ยังมีธุรกิจร้านอาหารที่รับสิทธิ์แฟรนไชส์มาจากต่างประเทศด้วย เช่น Tim Ho Wan เป็นต้น
และในปัจจุบัน สมศักดิ์ในวัย 90 ปี ก็ส่งไม้ต่อการบริหารอาณาจักรฟู้ดแลนด์มาให้เจเนอเรชั่นที่ 2 อย่าง ‘อธิพล ตีระสงกรานต์’ แล้ว
หลังจากผ่านวิกฤตมาหลายต่อหลายครั้ง (ครั้งที่รุนแรงครั้งหนึ่งคงหนีไม่พ้นเหตุกราดยิงที่โคราช ซึ่งสร้างความเสียหายให้ฟู้ดแลนด์มหาศาล) เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นๆ ฟู้ดแลนด์เองก็เป็นอีกหนึ่งรายที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบที่ต้องเปิดๆ ปิดๆ สาขา แถมต้องมาเจอกับปัญหาวิกฤตสินค้าราคาแพง กำลังซื้อหดหาย ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น จนฟู้ดแลนด์มีกำไรน้อยลงมาก จำเป็นต้องปลดพนักงานบางส่วน ส่วนร้านถูกและดีขาดทุนเป็นครั้งแรก
‘อธิพล’ ให้สัมภาษณ์กับประชาชาติธุรกิจว่า วิกฤตดังกล่าวทำให้เขาต้องปรับกลยุทธ์และหาทางแก้ไขสถานการณ์ด้วยการพยายามตรึงราคาสินค้าและจัดโปรโมชั่นแรงขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค พร้อมๆ กับต้องขึ้นราคาสินค้าบางอย่าง เช่น เนื้อหมู เนื่องจากแบกรับต้นทุนไม่ไหว
ส่วนโมเดลร้านในรูปแบบ Grab & Go หรือร้านขนาด 50-60 ตารางเมตร เน้นขายสินค้าประเภทเค้ก แซนด์วิช สลัด และเบเกอรี่ ที่มีไอเดียมาตั้งแต่ปี 2563 คาดว่าจะได้เห็นความเคลื่อนไหวหรือรีไรต์แผนงานอีกครั้งในปีนี้
ส่วนปีนี้บริษัทยังเดินหน้าลงทุนโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ใหม่บน ถ.รามอินทรา ภายใต้งบประมาณ 150 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการภายในไตรมาส 2-3 ปีนี้
อธิพลยังเชื่อว่าหากสัญญาณบวกต่างๆ กลับมา ไม่ว่าจะเป็นการกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ คนมีงานทำ กำลังซื้อเริ่มกลับมา ตลาดก็จะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งได้ โดยตั้งเป้าการเติบโตปีนี้ไว้ที่ 1-3%
แม้เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้และต้องติดตามกันต่อไปว่าฟู้ดแลนด์จะทำได้ตามที่หวังไว้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ในตอนนี้ ‘แจ็คสัน หวัง’ ก็ช่วยทำให้บรรยากาศของฟู้ดแลนด์และร้านถูกและดีคึกคักขึ้นมาได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วแน่นอน
อ้างอิง:
https://www.posttoday.com/politic/report/393871
https://www.thansettakij.com/business/454071
https://www.prachachat.net/marketing/news-501003
https://www.brandbuffet.in.th/2022/07/foodland-jackson-wang-phenomenon/










