การทำธุรกิจในยุคนี้เรียกว่าแทบทุกอุตสาหกรรมที่ต้องปรับตัวเอง ไม่ว่าจะปรับวิธีการทำธุรกิจ มุมมอง ไปจนถึง disrupt ตัวเองในเรื่องของ ‘นวัตกรรม’ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่หลายธุรกิจทำกัน
หนึ่งในธุรกิจที่อยากพูดถึงและเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ก็คือ ‘ทิพย์สมัย ผัดไทยประตูผี’ โดยก่อนหน้านี้เป็นกระแสข่าวมาสักพักแล้วเกี่ยวกับ ‘ผัดไทยกระป๋อง’ สินค้านวัตกรรมใหม่ของธุรกิจในตำนานแบรนด์นี้
หลายคนพอจะรู้เรื่องราวของร้านแห่งนี้อยู่บ้าง โดยความอร่อยเริ่มต้นมาจากวัยเด็กของคุณแม่ของ ‘คุณสมัย’ ที่ในสมัยนั้นยังเป็นการค้าขายโดยเรือ ผัดไทยเองก็เช่นกัน ซึ่งได้ขายผัดไทยเลียบคลองภาษีเจริญ ทั้งยังเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นสูตรผัดไทยเส้นจันท์ ใส่มันกุ้ง กุ้งสด ห่อไข่
แต่การทำธุรกิจในแต่ละยุคสมัยจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ และความเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด และเป็นที่นิยมของลูกค้าเช่นเดิม
[ เทรนด์อาหารพร้อมทานยังโต ‘ผัดไทยในตำนาน’ เพิ่มโอกาสการขาย ]
ข้อมูลจากวิจัยกรุงศรี เปิดเผยว่า การจำหน่ายอาหารพร้อมทานในประเทศไทย คาดการณ์ว่าจะเติบโตโดยเฉลี่ย 3.0-4.0% ต่อปี ซึ่งได้แรงหนุนจาก 4 ปัจจัยด้วยกัน
- กำลังซื้อที่กระเตื้องขึ้นตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
- การขยายตัวของช่องทางจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกสมัยใหม่
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
- แนวโน้มการบริโภคที่เน้นความเร่งรีบหลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาเต็มรูปแบบ
ขณะเดียวกัน ประเมินว่าในปี 2567-2569 ปริมาณการส่งออกอาหารพร้อมทานจะเติบโตเฉลี่ย 5.0-6.0% ต่อปี
[ สินค้านวัตกรรม เทรนด์ที่หลายธุรกิจใช้ปรับตัว ]
ดร.ศีขรเชษฐ์ ใบสมุทร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือทิพย์สมัย กรุ๊ป และบริษัท สยาม รอยัล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ทายาทรุ่นที่ 4 ของธุรกิจผัดไทยทิพย์สมัย ได้เผยถึงไลน์สินค้าของทิพย์สมัย ซึ่งเป็นสินค้านวัตกรรมในรูปแบบใหม่
“เราอาจเป็นน้องใหม่ในอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป แต่เรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมทางด้านอาหาร รวมถึงความเชี่ยวชาญในรสชาติที่พิสูจน์มาแล้วจากคนทั่วโลก ผัดไทยคือ Soft Power ที่ส่งต่อเรื่องราวความเป็นไทยได้อย่างทรงพลัง”
เมื่อปี 2567 บริษัท ทิพย์สมัย (ผัดไทยประตูผี) จำกัด มีรายได้รวมอยู่ที่ 54.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 12.88% จากปีก่อนหน้า ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 48.4 ล้านบาท
ผัดไทยทิพย์สมัยฯ ใช้กลยุทธ์เรื่องของนวัตกรรมาช่วย โดยมาจับกับเทรนด์อาหารพร้อมทานที่กำลังโต
ซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ของทิพย์สมัยฯ ครอบคลุมตั้งแต่ Ready Meal, Ready to Eat และ Ready to Cook เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ให้มากขึ้น ซึ่งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยอย่างมาก
โดย ดร.ศีขรเชษฐ์ เล่าว่า ใช้เวลาพัฒนาสินค้านวัตกรรมเหล่านี้กว่า 1 ปี เพื่อให้รสชาติยังคงเดิม และทำให้ทานได้ง่ายขึ้น เก็บได้นานขึ้น
ตัวอย่างสินค้านวัตกรรมที่พัฒนาจากธุรกิจผัดไทยทิพย์สมัยฯ (จากทั้ง 2 แบรนด์) เช่น
- ผัดไทยแช่แข็ง (Padthai Frozen) 6 รสชาติ
- ปอเปี๊ยะผัดไทยมันกุ้ง กุ้งสด
- เมนูวุ้นเส้น และเส้นหมี่ฮ่องกง
- ขนมไทยโบราณแช่แข็ง
ด้วยความที่แบรนด์ทิพย์สมัยฯ มีแผนส่งออกไปต่างประเทศมากขึ้น จากปัจจุบันที่ส่งออกไป เกาหลี, ฮ่องกง, ฟิลิปปินส์ และสหรัฐอเมริกาแล้ว การทำ R&D เพิ่มไลน์สินค้า รสชาติให้คงเดิม และการยืดอายุการทาน(โดยไม่ใส่สารกันเสีย) จำเป็นอย่างมากที่ต้องมีการตั้งเป้าให้แบรนด์ก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้านวัตกรรมที่ชัดเจน
แน่นอนว่าเทรนด์อาหารพร้อมทาน หรือพร้อมปรุง ยังไม่เปลี่ยนแปลงง่ายๆ จากงานวิจัยหลายๆ ที่ ดังนั้น ธุรกิจหรือผู้ผลิตอาหารรายไหนที่ปรับตัวเร็ว ตรงจุด ก็จะสามารถอยู่ได้อีกนานในตลาดนี้










