สำรวจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจีน ไม่ได้ใช้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่เพื่อสันทนาการของคนจีน

การบริหารการท่องเที่ยวของมณฑลส่านซี ประเทศจีนแตกต่างจากของไทยเล็กน้อย โดยประเทศจีนเน้นว่าเป้าหมายของการท่องเที่ยวคือเพื่อการสันทนาการของคนจีน ไม่ได้มีเป้าหมายที่จะให้การท่องเที่ยวเป็นธุรกิจหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งยังวางเป้าที่จะลดค่าตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจีนลง 15% ในปีหน้า เพื่อให้คนจีนได้ท่องเที่ยวมากขึ้น

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมบริษัทการท่องเที่ยวมณฑลส่านซีกรุ๊ป หรือ TCG Shaanxi ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านการท่องเที่ยวของจีนที่รัฐบาลถือหุ้น 100%  ในช่วงปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา  โดยนายหวัง เสี่ยว เลี่ยงผู้บริหารของบริษัท ได้ให้ข้อมูลว่า TCG Shaanxi ก่อตั้งมาตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปี 1998 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 9 แห่ง มีทรัพย์สินรวมกว่า 2.6 หมื่นล้านหยวน กำไรปีละกว่า 100 ล้านหยวน และในแต่ละปีดูแลนักท่องเที่ยวจีนกว่าปีละ 30 ล้านคน

โดยบริษัทฯ ทำหน้าที่บริหารแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในมณฑลส่านซี เช่นสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ พระราชวังหวาซิง พิพิธภัณฑ์วัดฝ่าหมิน ฯลฯ  โดยทางบริษัทฯ ได้มีการจัดอันดับและให้คะแนนแหล่งท่องเที่ยวในมณฑลด้วย โดยใช้เกณฑ์ประเมิน 8 ด้าน  แหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุดซึ่งได้คะแนนประเมินเกิน 950 จากเต็ม 1,000 คะแนน จะได้รับการจัดอันดับระดับ 5A  สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับคะแนนประเมิน 850-950 จากเต็ม 1,000  จะได้รับการจัดอันดับในระดับ 4A  โดยที่สถานที่ท่องเที่ยวในมณฑลส่านซีทีได้รับการประเมินระดับ 5A นั้นมี 2 แห่งด้วยกัน

ทั้งนี้ คณะสื่อมวลชนไทยที่ไปเยี่ยมชมบริษัท TCG Shaanxi ได้สอบถามผู้บริหารของบริษัทเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจท่องเที่ยว และได้คำตอบว่าเนื่องจากบริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจที่รัฐถือหุ้นอยู่ 100% จึงไม่ได้วางเป้าหมายในการทำกำไรสูงสุดเป็นสำคัญ อีกทั้งเป้าหมายจริงๆ ก็ไม่ใช่การพยายามดึงดูดต่างชาติให้มาเที่ยวมากๆ  เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลจีนมองว่า การท่องเที่ยวไม่ใช่อุตสาหกรรมที่จะมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่คือสันทนาการที่คนจีนควรจะได้รับมากกว่า

ดังนั้นแล้ว แม้จากสถิติที่นักท่องเที่ยวต่างชาติใช้จ่ายกว่าคนละ 223 ดอลลาร์สหรัฐฯ/วัน อีกทั้งแต่ละคนก็อยู่ในมณฑลเฉลี่ยถึง 3.19 วัน ซึ่งหากเป็นประเทศไทยก็อาจมองว่านี่เป็นโอกาสที่จะหารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ในจีนกลับไม่ได้มองเช่นนั้น และมองว่าควรโฟกัสไปที่นักท่องเที่ยวจีน เพื่อให้ประชาชนคนจีนได้รับการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพในราคาถูกเพื่อเป็นสันทนาการมากกว่า อีกทั้งในปีหน้า ทางบริษัทฯ ยังได้วางเป้าที่จะลดค่าตั๋วเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ลงอีก 15% อีกต่างหาก