ค่าปรับใหม่เป็นเกณฑ์กลาง ตร.ใช้ดุลยพินิจได้ เว้นรถปล่อยควัน แท็กซี่ขับอ้อม-ทิ้งคน ต้องปรับ 1 พัน

ค่าปรับใหม่เป็นเกณฑ์กลาง ตร.ใช้ดุลยพินิจได้ เว้นรถปล่อยควัน แท็กซี่ขับอ้อม-ทิ้งคน ต้องปรับ 1 พัน

ในประเทศ

ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน กฎหมายจราจรทางบกที่มีการปรับแก้ใหม่ เป็นการกำหนดเกณฑ์ค่าปรับกลาง ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันเท่านั้น แต่ความผิดฐานควันดำและแท็กซี่ทิ้งผู้โดยสาร จะต้องจ่ายในอัตราค่าปรับสูงสุด เพราะกระทบสิ่งแวดล้อมและภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบ สำหรับความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 พ.ศ.2563 ซึ่งอัตราอยู่ระหว่าง 200-1,000 บาท

พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

วันที่ 28 ส.ค. 2563 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประชุมคณะทำงานการพิจารณาบังคับใช้กฎหมาย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ โดยระบุว่า ประกาศใหม่นี้ เป็นการกำหนดเกณฑ์ค่าปรับกลาง เพื่อเป็นการชำระค่าปรับด้วยวิธีการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ บัตรเครดิต ผ่านธนาคาร หรือหน่วยบริการรับชำระเงิน
เนื่องจาก ตามกฎหมายจราจรที่มีการปรับแก้ไขใหม่ อำนวยความสะดวกให้ประชาชน ด้วยการเพิ่มช่องทางชำระค่าปรับมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องไปชำระค่าปรับ ณ พื้นที่ที่มีการกระทำความผิด จึงต้องมีการกำหนดอัตรากลางให้ทุกหน่วยงานที่รับชำระ ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ยกเว้นสถานีตำรวจผู้ออกใบสั่ง ยังคงมีอำนาจว่ากล่าวตักเตือนหรือใช้ดุลยพินิจ แต่ต้องไม่เกินอัตราค่าปรับที่กำหนดไว้ตามประกาศ
ยกเว้น ความผิดในข้อหา ควันเกินกำหนด ที่ต้องเสียค่าปรับเต็มอัตราสูงสุด 1,000 บาท เนื่องจาก เป็นปัญหากับสิ่งแวดล้อม รวมถึง แท็กซี่ทิ้งผู้โดยสาร หรือใช้เส้นทางอ้อมเกินควร ก็จะต้องเสียค่าปรับเต็มอัตราสูงสุด 1,000 บาทเช่นกัน เนื่องจาก กระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศ
ส่วนใบสั่งรูปแบบใหม่ จะเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 พ.ย.2563 ซึ่งเป็นเพียงการเพิ่มรายละเอียดข้อความในแบบพิมพ์ใบสั่งใหม่ ให้สอดคล้องกับกฎหมายจราจรที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม เช่น เพิ่มเติมช่องทางชำระค่าปรับให้ประชาชนสามารถชำระค่าปรับได้ที่สถานีตำรวจทุกท้องที่ ตลอดจน เพิ่มเติมเรื่องหน้าที่เจ้าของ ผู้ครอบครองรถ ว่า มีหน้าที่ต้องแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าใครเป็นผู้ขับขี่ที่กระทำผิดตามใบสั่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในบัญชีกำหนดจำนวนค่าปรับเกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มีทั้งหมด 155 ข้อหา โดยข้อหาที่มีค่าปรับสุงสุด 1,000 บาท คือ
– นำรถที่เครื่องยนต์ก่อให้เกิดก๊าซ ฝุ่น ควัน ละออง เคมี หรือเสียง เกินเกณฑ์ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกำหนดมาใช้ในทางเดินรถ
– ขับรถที่ใช้บรรทุกวัตถุระเบิดหรือวัตถุอันตรายชนิดอื่นใด ไม่จัดให้มีป้ายแสดงถึงวัตถุที่บรรทุกและเครื่องดับเพลิง และไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการป้องกันอันตราย
– ขับรถที่ใช้บรรทุกวัตถุระเบิดหรือวัตถุอันตรายชนิดอื่นใด โดยลักษณะและวิธีการติดป้ายไม่แสดงถึงวัตถุที่บรรทุกและเครื่องดับเพลิงตลอดจนเงื่อนไขในการป้องกันอันตราย ไม่เป็นไปตามกฎกระทรวง

– ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ไม่พาคนโดยสารไปยังสถานที่ที่ว่าจ้างตามเส้นทางที่สั้นที่สุดหรือเส้นทางที่ไม่อ้อมเกินควรและต้องส่งคนโดยสาร ณ สถานที่ตามที่ตกลงกันไว้
– ผู้ขับขี่รถแท็กซี่พาคนโดยสารไปทอดทิ้งระหว่างทางไม่ว่าด้วยประการใด ๆ
ขณะที่ข้อหาที่น่าสนใจ เช่น
– ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อป้องกันอันตราย ปรับ 400 บาท
– ขับขี่รถจักรยานยนต์ในขณะที่คนโดยสารถจักรยานยนต์มิได้สวมหมวกที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อป้องกันอันตราย ปรับ 800 บาท
– ผู้ขับขี่รถยนต์ไม่รัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะขับขี่รถยนต์ และไม่จัดให้คนโดยสารรถยนต์รัดร่างกายไว้กับที่นั่งด้วยเข็มขัดนิรภัยขณะโดยสารรถยนต์ ปรับ 400 บาท
TODAYWriterTODAY

Podcast

บทความที่เกี่ยวข้อง