อธิบดีกรมการขนส่งทางราง สั่งรถไฟ-รถไฟฟ้า ต้องให้ผู้โดยสารสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา เริ่ม 25 มีนาคม เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม ลงนามในประกาศกรมการขนส่งทางราง เรื่องข้อแนะนำในการปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับผู้โดยสารและหน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งทางราง ฉบับที่ 2 เพื่อให้หน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งทางรางทุกระบบทั้งรถไฟฟ้าและรถไฟ ดำเนินการเพิ่มเติมโดยเคร่งครัด ดังนี้
1. แจ้งให้ประชาชน ผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางราง จะต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า ตลอดเวลาที่ใช้บริการภายในระบบขนส่งสาธารณะทางราง ทั้งภายในสถานีและภายในขบวนรถ และกำกับการดำเนินงาน รวมทั้งชี้แจงถึงเหตุผลความจำเป็นแก่ประชาชน
2. ผู้ให้บริการใช้มาตรการระยะห่างทางสังคม (Social Distance) มาปรับใช้ในการบริหารจัดการภายในสถานีรถไฟและรถไฟฟ้า เช่น การเว้นระยะห่างจากบุคคลอื่นๆ ในระยะอย่างน้อย 2 เมตร เพื่อรับบริการตามความเหมาะสม
3. ผู้ให้บริการเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการป้องกันสำหรับพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ ที่ให้บริการภายในสถานีรถไฟและรถไฟฟ้า ที่ต้องพบเจอคนจำนวนมาก
4. ผู้ให้บริการจัดให้มีจุดจำหน่ายหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมืออยู่ในระบบ
5. ผู้ให้บริการดำเนินการเพิ่มจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารก่อนเข้าใช้บริการทุกสถานี โดยเร่งจัดให้มีเครื่องมือสำหรับตรวจอุณหภูมิ (Thermoscan)ให้เพียงพอ
ทั้งนี้ ขอให้แจ้งแก่ผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางราง เผื่อเวลาในการเดินทาง เนื่องจากการเพิ่มความเข้มงวดการคัดกรองในการเข้าใช้ระบบโดยสาร หากตรวจพบผู้โดยสารที่มีอุณหภูมิ สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรือผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือในการคัดกรอง ขอให้หน่วยงานผู้ให้บริการดำเนินการสงวนสิทธิ์ในการให้บริการ พร้อมทั้งดำเนินการติดต่อหน่วยงานสาธารณสุขดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
.
ให้ถือปฏิบัติครบถ้วน นับตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
จะคลี่คลายหรือมีประกาศเปลี่ยนแปลง









